Poj
visit our sponsor
visit our sponsor
Ploy
Mirror Site http://www.geocities.com/thaiparents/















จะปลอบขวัญทารกร้องไห้อย่างไรดี

ถ้าหากว่าทารกน้อยหวานใจของคุณพ่อกำลังร้องไห้โยเย คุณพ่อจะทำอย่างไรดี อย่ากลัวค่ะ ยังมีตั้งหลายวิธีที่จะช่วยให้น้ำตาของทารกน้อยเหือดแห้งหายไปได้…

ลูกเราร้องไห้ทำไม?
ผมจะตอบสนองลูกยังไงดีครับ?
ผมจะทำให้ลูกหยุดร้องได้มั้ยเนี่ย..?
สิ่งที่คุณพ่อไม่ควรทำ
แล้วถ้าหากว่าผมทำทุกวิถีทางแล้ว แต่มันยังล้มเหลวล่ะครับ?
เสียงร้องไห้มาจากไหน…เกิดขึ้นได้ยังไงล่ะเนี่ย…


ไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ ว่าทำไมเด็กทารกทุกคนจึงต้องร้องไห้… ก็ถ้าเป็นคุณถูกให้ออกจากบ้านที่แสนจะอบอุ่น, สบาย, และปลอดภัยดี คุณก็คงจะต้องร้องไห้เอามากๆ เหมือนกัน แต่การร้องไห้ของทารกก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการบ่งบอกถึงการเจ็บปวด หม่นหมอง เสมอไป เด็กทารกร้องไห้เพราะว่าเค้าพูดไม่ได้ สื่อสารให้คุณทราบเป็นคำพูดไม่ได้ ฉะนั้นเมื่อเค้าต้องการจะให้ คุณรู้ว่า นี่หนูกำลังหิวนะ, ร้อนนะ, หนาวจังนะคะคุณพ่อ, รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวเลยค่ะ, เหงา, เบื่อ หรือผมเหนื่อยแล้ว ก็ต้องแสดงออกให้คุณพ่อทราบด้วยการร้องไห้นี่ล่ะค่ะ

การร้องไห้ของทารกตัวน้อยเป็นการสื่อสารทางหนึ่งและคุณพ่อเองก็ควรจะตอบสนองลูกตามนั้นด้วย อย่าคิดว่าคุณจะต้องพยายามหยุดเสียงร้องของลูกให้ได้เร็วที่สุด คุณพ่อควรฟังเสียงร้องของลูกให้ดีแล้ว พยายามเรียนรู้ว่า ลูกหมายถึงอะไร

ภายใน 4 วันหลังจากลูกคลอดออกมา คุณพ่อคุณแม่ส่วนมากจะได้ยินเสียงร้องของลูกแม้ว่าจะอยู่ห่างกัน ในบ้าน และเริ่มเรียนรู้เสียงร้องของลูกแต่ละเสียงว่าลูกร้องเพราะอะไร ก็เหมือนกับคนที่เลี้ยงแมวนะคะ จะรู้ว่าอารมณ์ของแมวตัวเองตอนนี้เป็นอย่างไร เช่นกันค่ะ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรหัดเรียนรู้ความต้องการ ของลูกตัวน้อยๆ คนนี้บ้าง

ส่วนมากทารกเพศหญิงจะร้องไห้น้อยกว่าทารกเพศชาย ทารกหญิงจะอดทนกว่าและปรับตัวเข้ากับสภาพ แวดล้อมใหม่ๆ ได้ดีกว่า ทั้งนี้เป็นเรื่องที่แสนจะปกติ และคุณพ่อเองก็ไม่ควรคิดว่าลูกชายของตัวเองเป็นเด็ก ที่ไม่อดทนเอาเสีย เอาแต่ร้อง ร้อง…ตลอดเวลา เดี๋ยวโตขึ้นจะเป็นเด็กที่อ่อนแอ ไม่เข้มแข็ง คุณพ่อก็ เลยจะสอนให้ลูกเข้มแข็งขึ้นโดยการทำเป็นไม่สนใจต่อการร้องไห้ของลูก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ!

การไม่สนใจเด็กทารก, ไม่ตอบสนองต่อเสียงร้องจะทำให้เด็กทารกยิ่งร้องไห้หนักขึ้นไปอีก เมื่อโตขึ้นลูก จะกลายเป็นคนที่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ช้า เพราะว่าความพยายามในการสื่อสารของเขาเมื่อเป็นทารกถูกละเลย

ผมจะตอบสนองลูกยังไงดีครับ?

มีคุณพ่อหลายคนคิดว่า การไปยุ่งเกี่ยว หาวิธีหลอกล่อให้ทารกหยุดร้องนั้น จะยิ่งช่วยทำให้ทารกร้องไห้ มากยิ่งขึ้นไปอีก สู้ปล่อยไว้เฉยๆ เดี๋ยวก็เงียบไปเองจะดีกว่า หรือคุณพ่อบางรายกลัวการที่จะต้องดิ้นรน หาวิธีสงบลูกให้ได้ ใจเย็นๆ ค่ะ คุณพ่อต้องไม่วิตกจริต หรือเป็นกังวลเกินกว่าเหตุ

เด็กทารกจะร้องไห้มากขึ้น ถ้าคุณละเลยหรือ วางเฉย ไม่สนใจเค้า แล้วในที่สุดลูกก็จะกลายเป็นเด็กที่ ชอบร้องโยเย หรือร้องกรี๊ดๆ เอาแต่ใจตัวเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคุณพ่อคุณแม่ (ที่คุณเห็นบ่อยๆ ตามถนนหนทาง หรือที่สาธารณะทั่วไปนั่นล่ะค่ะ) เด็กทารกที่ได้รับการตอบสนองโดยเร็วด้วยการอุ้ม กอด, เห่กล่อมอย่างอบอุ่นที่เต็มไปด้วยความรักจากพ่อแม่มักจะไม่ค่อยร้องมากค่ะ

และถึงแม้ว่าคุณพ่อตอบสนองลูกอย่างรวดเร็วแล้ว แต่คุณจะต้องไม่ทำ ท่าวิตกกังวล ตกอกตกใจเมื่อได้ยินเสียงร้องของลูกปุ๊บ คุณพ่อก็ไม่ต้อง รีบร้อนหาทางสงบเสียงร้องของลูกตัวน้อยให้ได้อย่างรวดเร็วหรอกค่ะ เพียงแต่ว่าให้คุณพ่อตอบสนองต่อเสียงร้องของลูก จำไว้ว่า คุณพ่อ ไม่จำเป็นต้องพยายามที่จะหยุดเสียงร้องของลูกให้ได้ เพียงแต่รีบไป หาลูกโดยเร็วให้ลูกรับรู้ว่า นี่นะพ่อมาตามคำร้องเรียกแล้วนะ…
ลูกอยากให้พ่อทำอะไรรึครับ…

ฉะนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากที่คุณพ่อเองจะต้องพยายามระงับสติอารมณ์ ไม่ตื่นตกใจเกินไป บางคนเกลียดเสียง ร้องของเด็กทารก ไม่อยากได้ยินเพราะว่าในใจคิดแต่ว่า ลูกรักของเราเป็นอะไร? กำลังตกอยู่ในอันตราย หรือเจ็บปวดอะไรหรือเปล่า อย่าคิดแบบนั้นค่ะ การที่ลูกคุณร้องไห้ ไม่ได้หมายความว่า คุณเป็นพ่อแม่ที่ ไม่ได้เรื่อง ถ้าคุณตอบสนองลูกที่ร้องไห้ จำไว้นะคะว่า เพื่อทดแทนการสื่อสารกับลูก ใช้อาการท่าทางคุณ สื่อสารให้ลูกรับรู้แทนคำพูดของคุณ

นอกจากนั้น คุณพ่อเองควรมีทีท่าสบายๆ เวลาที่อยู่กับลูกซึ่งกำลังร้องไห้ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ลูกคาดหวังจากคุณ ถ้าคุณพ่อกำลังหวาดวิตก ตกใจกับเสียงร้องของลูก ลูกรับรู้ได้ค่ะ อารมณ์ของคุณสื่อสารออกมาในทางที่คุณ ไม่สามารถจินตนาการได้ กล้ามเนื้อที่ตึงเครียด, กลิ่น, น้ำเสียง หรือแม้แต่ระดับการหายใจเข้าออกของคุณพ่อ นั่นล่ะค่ะที่เป็นตัวบอกให้ลูกรับรู้ว่าคุณกำลังรู้สึกอย่างไร คุณไม่สามารถหลอกทารกน้อยได้สำเร็จหรอกค่ะ เด็กทารกก็เหมือนกับสุนัข ที่สามารถได้กลิ่น รับรู้ความรู้สึกหวาดกลัวของคุณได้ ฉะนั้น อย่าแสร้งทำเป็น มีทีท่าเยือกเย็น สงบสติอารมณ์ แต่จงสงบสติอารมณ์ และเยือกเย็นจริงๆ

เมื่อลูกร้อง ก็ไม่ควรรีบร้อนหา หัวจุกหลอกๆ ใส่เข้าปากลูกเพื่อให้ลูกดูด หรือรีบๆ อุ้ม, กล่อมๆ แล้วรีบๆ วางลง แล้วหนีจากไป แต่ว่าควรจะรีบเข้าไปหาลูกโดยทันทีด้วยท่าทีสงบ สบายๆ ให้ลูกรู้ว่าคุณกำลังตอบสนองต่อ คำขอร้องของลูก

ผมจะทำให้ลูกหยุดร้องได้มั้ยเนี่ย…?

ข่าวดีก็คือว่า ส่วนมากแล้วการร้องไห้ของลูกสามารถหยุดได้ด้วยวิธี ง่ายๆ ถ้าลูกคุณหิว ก็ให้นมลูกกิน แต่ถ้าลูกอยู่ในอารมณ์เบื่อ คุณก็หยิบของเล่นกรุ๋งกริ๋งมาเขย่า แล้วส่งให้ลูกกำเล่นแต่ถ้าเจ้าตัว น้อยที่น่าสงสารคนนี้กำลังรู้สึกเหงาจัง ไม่มีใครเล่นกับหนูเลย…คุณ เก๊าะยกเธอขึ้น เอามากอดเสียหน่อย ทำท่าจ๊ะเอ๋ ส่ายหน้าให้ดูตลก เล่นกับลูก พาเดินชมนกชมไม้ ดูวิวหรืออะไรก็ได้ที่คุณคิดออกแล้ว คิดว่าลูกอาจจะชอบ มันง่ายเช่นนั้นเลยเหรอ คุณอาจจะถามอยู่ใน ใจ …ใช่แล้วค่ะ แต่ว่า อย่าโมโหโทโสหรือหงุดหงิดล่ะคะ ถ้าคุณ พยายามแล้วประมาณ 30 นาทีแต่ลูกก็ยังส่งเสียงร้องงอแงอยู่เหมือน เดิม อาการร้องเช่นว่านี้เป็นแล้วก็หายค่ะ และส่วนมากจะเป็นอยู่ ไม่กี่อาทิตย์ ถ้านานหน่อยก็ประมาณ 3 เดือนแรกของชีวิตน้อยๆ นี้

การร้องไห้งอแงของเด็กทารกที่หาสาเหตุไม่ได้ หลายครั้งมาจากการที่ลูกเหนื่อยนั่นเอง แล้วก็ไม่รู้ว่าจะ หลับยังไงดี คือเหนื่อยแต่ว่ายังหาท่านอนที่ถูกใจไม่ได้ ไม่หลับเสียที ทั้งนี้เป็นสถานการณ์ที่คุณจะสังเกต ยากซักหน่อย แต่ว่า ก็สามารถแก้ปัญหาได้ ด้วยการรีบอุ้มกล่อมลูก โยกเค้าตัวเบาๆ แล้วค่อยๆ วางลูกลงกับที่นอน อย่างเบามือ ในไม่ช้าลูกก็หลับไปเอง

พยายามอย่าโมโหลูกด้วยนะคะ ถ้าทันทีที่คุณอุ้มลูกปั๊บ ลูกก็ส่งเสียงร้องปุ๊บ คุณพ่อหลายๆ คนกลัวเหมือนกัน เพราะว่าลูกมักจะติดแม่ พอเป็นคุณพ่อที่กำยำล่ำสัน มาอุ้ม ลูกก็เลยร้อง คุณพ่อก็ต้องพยายามจับ, อุ้มลูก อย่างเบามือ และมีทีท่าสบายๆ ถ้าคุณพ่อมัวแต่หวาดกลัว จะอุ้มลูกที ก็กลัวจะทำลูกตก เกร็งไปหมด… นั่นล่ะค่ะ การันตีได้เลยว่า คุณจะทำให้ลูกร้องได้แน่นอน

เมื่อถึงคราวที่คุณพ่อต้องอุ้มลูก สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ลูกของเรา กลัวอะไร ทำท่าผ่อนคลาย…รู้สึกดี อยากอุ้มลูก แล้วลูกจะรู้สึกอบอุ่น มั่นคง เมื่ออยู่ในมือคุณพ่อ ลูกก็ไม่ร้องหรอกค่ะ

วิธีที่ดีที่สุดในการทำให้ลูกหยุดร้องงอแง นั่นก็คือ พยายามหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้ลูกร้อง หลังจาก 2-3 อาทิตย์ที่คุณลองฝึกฝน หัดสังเกตท่าทางลูก คุณก็จะทราบอาการของลูกว่าขณะนี้กำลังอยู่ใน อารมณ์ไหน อยากทำอะไร อยากได้อะไร และเมื่อนั้นคุณก็ตอบสนองความต้องการลูกได้ถูกต้อง ก่อน ที่ลูกจะส่งเสียงร้องไห้โยเยบอกให้คุณทราบ ในไม่ช้าคุณก็จะกลายเป็นคุณพ่อยอดนิยมของบ้านไปด้วยซ้ำ

สิ่งที่คุณพ่อไม่ควรทำ

จำไว้นะคะว่า ไม่มีเหตุผลที่คุณจะทำเป็นวางเฉยต่อทารกลูกรักของคุณเมื่อแกร้องไห้งอแง ถ้าลูกคุณกำลังหิว แกจะหยุดร้องเมื่อคุณให้นมทาน

อย่าโมโห, ฉุนเฉียว หรือพูดตะคอกลูกถ้าลูกร้องไห้ไม่หยุดเสียที ถ้าคุณรู้สึกเครียด กดดันในเสียงร้องงอแงของลูก กรุณาหาคนมาช่วยปลอบลูกดีกว่า ถ้าในขณะนั้น ไม่มีใครอยู่บ้านเลยที่จะช่วยผลัดคุณได้บ้าง ก็วางลูกไว้บนเตียงที่ปลอดภัยซักครู่หนึ่ง แล้วเดินไประงับสติอารมณ์ชั่วครู่ สูดลมหายใจลึกๆ เพื่อให้ตัวคุณเองสงบ ดีขึ้น ก่อนที่จะกลับมาสู้ต่อไป อีกซักตั้ง

ที่สำคัญ อย่าโยนลูก หรือเขย่าตัวลูกเด็ดขาด จะเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อเด็กทารกโดยเฉพาะสมอง จะได้รับการกระทบกระเทือน

ถ้าพยายามทุกวิถีทางแล้ว แต่ยังไม่ได้ผลล่ะ

ลองวิธีต่อไปนี้ เผื่อจะถูกใจลูกน้อยจอมเอาใจยากของคุณนะคะ

  1. โยกหรือแกว่งตัวลูกเบาๆ โดยไม่มีอาการสะดุด หรือกระตุก

  2. เขย่าของเล่นมีเสียงกรุ๋งกริ๋งให้ลูกฟัง แล้วส่งต่อให้ลูกเล่น (ไม่มีชิ้นส่วนเล็กๆ ที่จะหลุดเข้าไปในลำคอได้)

  3. เปิดเพลงเพราะๆ หรือเพลงบรรเลงให้ลูกฟัง แล้วอุ้มลูกโยกตัวไปตามจังหวะเพลง อย่างเบาๆ

  4. อุ้มลูกเดิน, เต้นรำ, โยก, ไกวเปล ไปตามจังหวะ เบาๆ ช้าๆ

  5. ร้องเพลงให้ลูกฟัง มันอาจจะไม่เพราะ แต่ลูกอาจชอบก็ได้

  6. พาลูกนั่งคาร์ซีท แล้วขับรถไปตามเรื่อยๆ เผื่อลูกชอบ หรือเพลินจนหลับไปเลย
โชคดีค่ะ คุณพ่อมือ.ใหม่ทุกท่าน!!
ถ้าคุณพ่อมีวิธีอื่นๆ ที่ได้ผลในการปลอบขวัญลูกน้อยที่กำลังร้องไห้งอแง กรุณาเมล์มาบอก
คุณพ่อคนอื่นบ้างนะคะ ที่ maeaom@thaiparents.com back

มุมคุณพ่อ






Home | ข่าวสุขภาพ | การตั้งครรภ์-การคลอด | การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ | ทารกแรกเกิด - ๑ ขวบ
เด็กวัย ๑-๕ ขวบ | Working Mom | การเงินในครอบครัว | สาระน่ารู้ภายในบ้าน | Dad's Corner


maeaom@hotmail.com
Thaiparents.com 2000
All rights reserved