|
แขกรับเชิญ: คุณสมศักดิ์ ตันติพิมลพันธุ์
อาชีพ: พนักงานรัฐวิสาหกิจ
1.ตอนนี้ทำอาชีพเกี่ยวกับอะไรค่ะ
ตอบ พนักงานรัฐวิสาหกิจครับ
2.กรุณาบอกชีวิตประจำวันคร่าว ๆ ได้ไหมค่ะ
ตอบ น้องปายจะเป็นเด็กที่ตื่นนอนเช้ามากๆๆ ประมาณตีห้า บวกลบนิดหน่อย จึงเป็น
นาฬิกาปลุกชั้นเยี่ยมปลุกทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ เมื่อตื่นนอนแล้วก็จะฝากน้องปาย
ไว้กับยายก่อนส่วนตาจะไปตีกอล์ฟกว่าจะกลับก็ประมาณ 9 โมง จากนั้นผมจึงอาบน้ำแต่งตัว
ไปทำงาน ช่วงกลางวันก็เป็นหน้าที่ของตากับยาย จนกระทั่งผมกลับจากที่ทำงานในตอน
เย็น ก็เป็นหน้าที่ของคุณพ่อและคุณแม่ในการป้อนข้าว ป้อนน้ำ และอาบน้ำ น้องปาย แต่ถ้า
กลับบ้านช้าก็จะเป็นหน้าที่ของตากับยายเช่นเดิม ส่วนวันหยุดก็เป็นหน้าที่ของพ่อกับแม่เต็ม
เวลา
3.ลูกอายุเท่าไรและมีกี่คนค่ะ กะว่าในครอบครัวจะมีลูกสักกี่คนค่ะ
ตอบ ขณะนี้น้องปายอายุ 1 ขวบ 6 เดือน (ครบ 6 เดือนเต็ม วันที่ 12 สค.44) ก่อนจะมีน้องปาย
กะไว้ว่าจะมีลูกสัก 3-4 คน แต่พอมีน้องปายแล้ว กะว่าจะมีแค่ คนเดียวหรืออย่างมาก 2 คน
ขึ้นอยู่กับการรบเร้าของตากับยายเนื่องจากตากับยายอยากให้มี 2 คนเป็นเพื่อนกันได้ แต่
น้องปายเป็นเด็กที่ซนมาก ตอนน้องปายคลอดใหม่ ๆ มีคนบอกว่าเด็กผู้หญิงเลี้ยงง่าย ผมก็
เชื่อและดีใจด้วยจะได้เหนื่อยไม่มาก แต่ตอนนี้ผมไม่เชื่อแล้ว
4. มีแนวทางในการเลี้ยงลูกอย่างไรค่ะ และภรรยาเห็นด้วยไหม
ตอบ ถึงแม้น้องปายจะเป็นเด็กที่ซน แต่ก็เป็นเด็กอารมณ์ดี ผมไม่ต้องการให้น้องปายเติบ
โตมาแล้วเป็นคนที่มีอารมณ์ร้อน เอาแต่ใจ หงุดหงิดง่าย ฯลฯ หรือที่สมัยนี้นิยมเรียกว่าขาด
EQ ผมต้องการให้น้องปายเติบโตเป็นคนอารมณ์ดี เป็นที่รักของทุกคน ผมจะให้ความรัก
ความอบอุ่นกับเขาอย่างเต็มที่ จะไม่แสดงอาการโกรธหรือฉุนเฉียวให้เขาเห็น เขาอยากจะ
ทำอะไรก็ตามถ้าไม่เป็นเรื่องอันตรายหรือเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำผมก็จะไม่ห้ามแต่จะคอยดูอยู่
ห่าง ๆ เพื่อดูว่าเขามีจิตนาการอย่างไร และเพื่อไม่เป็นการไปหยุดความคิดและจินตนาการ
ของเขา เช่นดูเขาขีดเขียนหนังสือแม้จะไม่เป็นภาษาก็ตาม ดูเขาเล่นตุ๊กตาทาแป้งบ้างป้อน
นมบ้าง ฯลฯ เราต้องไม่เอาความนึกคิดของเราหรือสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้องใส่ไปให้เด็ก ผม
สมมุติว่าถ้าน้องปายโตขึ้นกว่านี้จนพูดได้สื่อสารกับเราได้ถ้าเขาวาดรูปตุ๊กตาสักตัวแล้วทาสี
ผมเป็นสีเขียว ผมจะไม่บอกเขาว่าผิดต้องทาสีดำเท่านั้น เพราะนั่นแสดงว่าเราเริ่มเอาตัว
เราเป็นหลัก เป็นสิ่งที่ผิดในการสอนเด็ก (แค่นี้ก่อนนะครับ พูดถึงเรื่องนี้แล้วยาวครับ จบ
ยาก)
5. ใช้เวลาว่างกับครอบครัวอย่างไรค่ะ
ตอบ ส่วนใหญ่แล้วในวันหยุดถ้าผมไม่ติดธุระ ก็จะพาน้องปายออกไปเที่ยวนอกบ้านให้เขา
พบเห็นสิ่งแปลก ๆ ใหม่ ๆ เช่น ไปสวนสัตว์ ห้างสรรพสินค้า สนามเด็กเล่น หรือออกต่าง
จังหวัดเที่ยวภูเขา ทะเล ฯลฯ
6. ให้เวลากับภรรยาในช่วงไหนค่ะ และมีโอกาสไปเที่ยวกับภรรยาสองต่อสองไหมค่ะ
ตอบ เวลาส่วนใหญ่ที่ผมให้กับลูก ก็คือเวลาที่ผมให้กับภรรยาเพราะจะไปไหนมาไหนด้วย
กับสามคนพ่อแม่ลูก อยู่เสมอ แต่ถ้าทางบริษัทฯ มีสัมมนาต่างจังหวัด ผมจึงจะมีโอกาสเที่ยว
กับภรรยาสองต่อสอง สัมมนาเสร็จเรียบร้อยผมก็จะอยู่ต่อสักคืน แล้วค่อยกลับ
7. พอใจกับชีวิตครอบครัวที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้มากน้อยแค่ไหนค่ะและมีส่วนใดบ้างที่อยากเพิ่มมากขึ้นหรือลดลง
ตอบ พอใจมากครับ (จงพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่) หากชาติหน้ามีจริงก็ขอให้เกิดมาเป็นพ่อ แม่
ลูก กันอีก
8. เล่าให้ฟังช่วงที่ภรรยาตั้งครรภ์ลูกคนนี้หน่อยได้ไหมค่ะ เช่นแพ้มากไหม อยากทาน
อะไรเป็นพิเศษ และมีโรคแทรกซ้อนไหม อยากให้พูดถึงช่วงที่ภรรยาตั้งครรภ์ว่าอารมณ์
เป็นอย่างไรบ้าง และรู้สึกดีใจ ประหลาดใจ ตื่นเต้น มากน้อยแค่ไหน กังวลใจอะไรบ้างไหม
ตอบ ในช่วง 3 เดือนแรกที่คุณแม่ตั้งครรภ์ เป็นช่วงที่ลุ้นระทึกมากที่สุดช่วงหนึ่ง เนื่องจาก
คุณแม่มีเลือดออกบ่อยมาก กลัวแท้งลูกมาก จะกินจะนอนต้องระวังตลอดเวลา กระทบ
กระเทือนไม่ได้เลย หมอบอกว่าไข่เกาะอยู่ต่ำ และอาการตกเลือดอาจจะเกิดจากคุณแม่
เครียดและไม่แข็งแรง ในช่วงนี้จึงหยุดงานบ่อยมาก หลังจากช่วงเดือนที่ 4 ขึ้นไปก็ไม่ค่อยมี
ปัญหาอะไร คุณพ่อคุณแม่ก็จะคอยนับถอยหลังว่าเมื่อใดคลอด รู้สึกตื่นเต้น และดีใจมาก
จินตนาการไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าลูกจะมีหน้าตาอย่างไร แต่ก็กังวลด้วยกลัวว่าลูกจะไม่ครบ 32
ก่อนนอนก็จะไหว้พระ สวดมนต์ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่เริ่มหาอะไรๆ ให้ลูก เช่นฟังเพลง (มี
เยอะมาก โดยเฉพาะ เพลง Classic ) จัดหาเสื้อผ้า ของใช้ต่าง ๆ ตั้งชื่อลูก จนคุณตาพูด
ประชดว่า "ร้อนวิชา" แต่สุดท้ายชื่อลูกที่เลือกไว้ทั้งหมด 16 ชื่อ (ชาย 8 ชื่อ หญิง 8 ชื่อ) ไม่ได้
ใช้เลย เพื่อนคุณตาเป็นคนผูกดวงและตั้งชื่อให้ว่า "กรรวี" แต่ก็เพราะดีชอบทั้งคุณพ่อคุณ
แม่ ในช่วงที่ตั้งครรภ์ในเดือนที่ 5-6 คุณแม่จะชอบทานส้มตำปูเป็นพิเศษ แต่ผมจะคอยห้าม
และพูดถึงโทษที่มีมากกว่าประโยชน์ จนสุดท้ายคุณแม่ก็ยอมเลิกทานส้มตำปู
9. เล่าเหตุการณ์ในวันคลอดให้ฟังหน่อยได้ไหมค่ะ เพื่อเป็นประสบการณ์แก่คุณพ่อคน
อื่นที่กำลังรอวันคลอดของภรรยาอยู่ ได้เข้าไปอยู่ในวันคลอดด้วยไหมค่ะ
ตอบ ในวันคลอดนั้น เป็นวันที่หมอนัดตรวจครรภ์ตามปกติ แต่พอหมอตรวจครรภ์เสร็จ
เรียบร้อยแล้วก็พบว่าหัวใจของเด็กเต้นไม่ปกติ คือเต้นไม่สม่ำเสมอ และหยุดเป็นช่วง ๆ
หมอจึงไม่ให้กลับบ้านและให้คุณแม่เข้าห้องผ่าตัดเลย วันนั้นนัดหมอไว้ 10 โมง เข้าห้องผ่า
ตัดประมาณเที่ยง ลงมือผ่าตัดบ่าย 3 โมง ลูกคลอดออกมา บ่าย 3 โมง 31 นาที ผมขอหมอเข้า
ห้องผ่าตัดด้วย แต่หมอไม่อนุญาต ตอนที่พยาบาลเข็นคุณแม่เข้าห้องผ่าตัด ผมน้ำตาคลอเลย
ทั้งดีใจที่จะได้ลูก ทั้งสงสารคุณแม่ในขณะนั้นถ้าเปลี่ยนตัวกันได้ผมจะยอมทันที ผมจึงเฝ้าอยู่
ที่หน้าห้องกระจกช่วงนั้นกระวนกระวายใจมาก คิดไปต่าง ๆ นา ๆ ทั้งตัวแม่และลูกรอจน
กระทั่งหมออุ้มลูกออกมาผมรู้สึกทั้งตื่นเต้น ดีใจอย่างบอกไม่ถูก เด็กที่อยู่ตรงหน้าเรานี้คือลูก
ของเรา ธรรมชาติช่างแปลกประหลาดและมีความสร้างสรรค์จริง ๆ จากนั้นก็จะดูว่าลูกมีครบ
32 ไหม หน้าตาเหมือนใคร และเมือหมอเดินออกมาก็จะถามหมอว่าลูกปกติแข็งแรงหรือ
เปล่า ซึ่งผมดีใจมากที่ลูกแข็งแรงสมบูรณ์
10. มีเคล็ดลับในการเลี้ยงดูลูกอย่าไรบ้างค่ะ เล่าให้ฟังบ้างสิค่ะ
ตอบ ปล่อยให้เขาเป็นตัวของตัวเอง ไม่ไปบังคับไม่ห้ามหรือชี้นำโดยความคิด ความอ่านของ
เราเพราะเป็นการตีกรอบความคิดของเขา หากสิ่งที่เขาทำเป็นสิ่งที่ไม่อันตรายหรือไม่เสีย
หายก็จะปล่อยเขา
11.นอกจากนี้ อยากพูดคุย หรือฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่น ๆ บ้างไหมค่ะ ขอเชิญได้ตามสบายเลยค่ะ
ตอบ ตอนผมเป็นเด็ก ผมเคยได้ยินผู้ใหญ่พูดเสมอว่า เลี้ยงลูกเลี้ยงได้แต่ตัว ตอนนี้ผมคิด
ว่าคำพูดนี้ผิดการเลี้ยงดูเด็กสักคน นอกเหนือจากเลี้ยงด้วยอาหารการกินแล้ว เราต้องเลี้ยง
ด้วยความรัก ความเข้าใจ ใช้จิตวิทยาพอสมควร เด็กจึงจะเติบโตขึ้นมาเป็นคนที่มีคุณภาพ
ของสังคม และประเทศชาติต่อไป เด็กจะจดจำตัวอย่าง การกระทำใด ๆ จากคนรอบตัว พ่อ
แม่ ญาติพี่น้อง จึงต้องเป็นตัวอย่างที่ดี หากเด็กโตขึ้นมามีพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่ดี ให้นึกย้อน
หลังกลับไปว่าเราเคยมีพฤติกรรมเช่นนั้นหรือไม่ ไม่ต้องไปโทษตัวเด็ก ต้องโทษตัวเราเอง
ขอบคุณมากครับ
สมศักดิ์ ตันติพิมลพันธ์
สำหรับแขกรับเชิญท่านต่อไป จะเป็นใคร คอยติดตามนะคะ
ส่วนท่านใดยินดีที่จะมาเป็นแขกรับเชิญ พูดคุยกัน สบายๆ แบบนี้บ้าง ขอเชิญ email มาบอก
กันได้นะคะ ที่ maeaom@hotmail.com or
maeaom@thaiparents.com ค่ะ
แล้วพบกันใหม่ค่ะ
แม่อ้อม
back
|