Poj
visit our sponsor
กรุณาสนับสนุนสปอนเซอร์ของเรา
Ploy









- เครื่องปรับอากาศ
- ขับรถตอนกลางคืน
ครีมป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่นอาจทำให้ผิวหน้าแก่เร็วขึ้น

จากการศึกษาและวิจัยของหลายสถาบันทั้งในสหรัฐและยุโรปพบว่า กรดผลไม้ (Fruit acid)
ซึ่งเป็นส่วนผสมในครีมป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่นที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ อาจทำให้ผิวหนัง แก่เร็วขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น โดย EU Commission กำลังพิจารณาออกกฎที่เข้มงวดขึ้นสำหรับ ผู้ผลิตครีมดังกล่าวนี้

สาร AHAs (Alpha Hydroxy Acids) เริ่มเป็นที่นิยมในปี 1990 โดยมีส่วนผสมของกรด glycolic และ กรด lactic ซึ่งนำมาผลิตเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวทั้งหลาย ผู้ผลิตครีมดัง กล่าวอ้างว่าครีมที่มีส่วนผสมของของ AHAs สามารถช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ทำให้ผิวขาวขึ้น และช่วยซ่อมแซมริ้วรอยที่เกิดจากการทำลายของแสงแดด หรือแม้แต่ลดรอยแผลเป็น เล็กๆ น้อยๆ ได้และทำให้ผิวพรรณอ่อนนุ่มขึ้น

แต่ทางองค์การวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ที่มิใช่อาหาร แห่งกรุงบรัสเซลล์ เบลเยี่ยมได้แนะนำว่า ผู้บริโภคที่ใช้ผลิตภัณฑ์ผสมสาร AHAs จะมีความเสี่ยงสูงต่อการ ที่ผิวพรรณจะเป็นอันตรายจากรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต และกรดดังกล่าวยังเพิ่มความเสี่ยงทำ ให้ผิวเป็นผื่นแดงง่ายขึ้น, เกิดอาการผิวหนังไหม้ และแห้งแตกเป็นขุย

แม้ว่าคำแนะนำในเอกสารประกอบครีมบำรุงผิวนี้จะระบุว่าผิวหนังของผู้บริโภคจะไม่เกิด ปฏิกิริยาต่อแสงแดดตราบเท่าที่ใช้ครีมนี้ถูกต้องตามคำแนะนำของผู้ผลิต แต่ก็ยังไม่เป็น เช่นนั้นทุกราย เพราะว่าสาร AHAs นี้จะทำให้ผู้ใช้ประสบปัญหา ในกรณีที่เป็นคนมีผิว แพ้ง่าย หรือทาครีมมากเกินไป หรือทาครีมนี้นานเกินไป หรือทาครีมลงบนผิวที่เป็นรอยผื่น แดงเนื่องจากผิวหนังอักเสบหรือเป็นโรคผิวหนัง

Prof. Dr. Nicholas Lowe ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังแห่งมหาวิทยาลัย UCLA แนะนำว่า หากจะใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHAs ควรทาครีมบางๆ ไม่ทามากเกินไป และ ควรเปลี่ยนทาใหม่หลายครั้งต่อวัน

นอกจากนั้นควรทาครีมกันแดดที่สามารถดูดซึมรังสี UV และ UVB ร่วมด้วย ทุกเช้าที่ใช้ครีมนี้

นักวิทยาศาสตร์แห่งคณะกรรมาธิการร่วมยุโรประบุว่าขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะสั่งถอนครีม นี้ออกจากการวางจำหน่ายในตลาด เพราะหลักฐานการวิจัยเพื่อใช้ตรวจสอบครีมดังกล่าว ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่แนะนำว่ากรด glycolic ที่ผสมในครีมไม่ควรเกิน 4% ต่อค่าpH เท่ากับหรือมากกว่า 3.8 และกรด lactic ควรจำกัดที่ 2.5% และมีค่าpH เท่ากับ 5 หรือ มากกว่า ขณะเดียวกันยังได้เตือนผู้ใช้ครีมที่มีส่วนผสม AHAs 2 ข้อด้วยกันคือ:
หนึ่ง - ควรหลีกเลี่ยงการทารอบดวงตา และ
สอง - ควรหลีกเลี่ยงการออกแดด หรือถ้าต้องออกแดดให้ใช้ครีมป้องกันแสงแดด เพราะครีมนี้ทำให้ผิวหนังมีความไวต่อแสงอัลตร้าไวโอเลตเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นยัง พิจารณาที่จะให้บริษัทผู้ผลิตฯ ระบุคำเตือนดังกล่าวลงบนฉลากของเครื่องสำอางและครีม แต่ยังรอความเห็นเพิ่มเติมจากนักวิทยาศาสตร์จากหน่วยงานอื่นก่อน

สำหรับองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐระบุว่ายังไม่จำเป็นต้องให้บริษัทผู้ผลิตระบุคำเตือน บนฉลากของครีม แต่จะรอดูคำร้องเรียนของผู้บริโภคที่มีต่อสมาคมเครื่องสำอางและน้ำ หอมว่าฉลากที่ขวดครีมนั้นจะต้องรวมถึงคำเตือนให้ใช้ครีมกันแดดด้วยเมื่อทาครีมนี้ และทาง FDA ได้แนะนำว่าผลิตภัณฑ์ควรมีส่วนผสมของ AHA ไม่เกิน 10% และมีค่า pH เท่ากับ 3.5 หรือมากกว่า

ขณะนี้องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐกำลังรอผลการวิจัยจากโปรแกรมการศึกษาพิษวิทยา แห่งชาติ แห่งสถาบันวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมแห่งชาติของสหรัฐ ในกรณีศึกษาเรื่องความ ปลอดภัยของ AHA ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ใช้ครีมนี้ควรหลีกเลี่ยงการออกไปปะทะแดดโดย ตรงและควรใช้ครีมกันแดดด้วย และถ้าหากผิวหนังเกิดปฏิกิริยาต่อต้านทันทีเมื่อใช้ครีมนี้ ควรปรึกษาแพทย์โดยตรง

Updated: 19 August 2000



มุมการกุศล : Charity area





visit our sponsor
visit our sponsor


Home | ข่าวสุขภาพ | การตั้งครรภ์-การคลอด | การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ | ทารกแรกเกิด - ๑ ขวบ
เด็กวัย ๑-๕ ขวบ | Working Mom | การเงินในครอบครัว | สาระน่ารู้ภายในบ้าน | Dad's Corner


maeaom@hotmail.com
Thaiparents.com 2000
All rights reserved