|
ตั้งครรภ์/คลอดบุตร >
การตั้งครรภ์กับโรคเหงือกอักเสบ |
ขณะที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์อยู่นั้น การทำงานและกิจวัตรประจำวันต่างๆที่เคยทำมาก่อนนั้น อาจ
ต้องลดน้อยลงตามลำดับเมื่ออายุครรภ์เพิ่มขึ้น แต่คุณแม่ทั้งหลายไม่ควรที่จะงดเว้นการทำความ
สะอาดช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นการแปรงฟัน และการใช้ไหมขัดฟัน เพราะหญิงมีครรภ์นั้นมีโอกาส
เป็นโรคเหงือกอักเสบได้ ตั้งแต่เดือนที่ 2-3 ของการมีครรภ์ และจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นจนถึง
เดือนที่ 8 ของครรภ์ การเพิ่มขึ้นของระดับฮอร์โมนเพศเอสโตรเจน ( Estrogen ) และโปรเจส
เตอโรน (Progesterone) ในขณะตั้งครรภ์มีผลทำให้แบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเหงือก
อักเสบเจริญเติบโตอย่างมากมาย ทำให้เหงือกอักเสบบวมแดงและมีเลือดออกได้ง่าย
จากการวิจัยพบว่า 50 % ของหญิงมีครรภ์มักเป็นโรคเหงือกอักเสบขณะตั้งครรภ์ อย่างไรก็ดี คุณ
แม่ท่านใดเป็นผู้ที่มีอนามัยช่องปากดีอยู่แล้ว ก็จะไม่เป็นโรคนี้
โดยปกติโรคเหงือกอักเสบเป็นโรคที่มีอัตราการเกิดโรคค่อนข้างสูง ผู้ที่แปรงฟันไม่ถูกวิธีและไม่
ใช้ไหมขัดฟันมีโอกาสเป็นโรคเหงือกได้เกือบ 100 % แต่เนื่องจากโรคเหงือกอักเสบเป็นโรคที่มี
การดำเนินโรคช้า และมักไม่แสดงอาการปวดรุนแรง จนกระทั่งโรคได้ลุกลามมากแล้ว ผู้ป่วยจน
จะรู้ตัวว่ามีความผิดปกติขึ้น อาการเริ่มแรกหากสังเกตให้ดีจะพบว่า อาจมีเลือดออกเวลาแปรงฟัน
หรือใช้ไหมขัดฟันสีเหงือกคล้ำเข้มขึ้น ขอบเหงือกมีลักษณะบวมแดง ยอดสามเหลี่ยมของเหงือกมี
ลักษณะมนกลม มีกลิ่นปากและการเสียวฟัน ก็อาจเป็นอาการของโรคเหงือกได้ค่ะ
ในบางครั้งโรคเหงือกอักเสบในหญิงมีครรภ์ อาจจะรุนแรงมากจนกระทั่งเหงือกมีลักษณะเป็น
ก้อนเนื้อโตขึ้นมาก (Pregnancy Tumor) มีเลือดออกง่าย และจะเจ็บก็ต่อเมื่อก้อนเนื้อใหญ่ขึ้นจน
เป็นอุปสรรคต่อการบดเคี้ยว
การรักษาเหงือกอักเสบระหว่างการตั้งครรภ์สามารถทำได้ในเดือนที่ 4-5-6 ของการตั้งครรภ์ โดย
การขูดหินน้ำลาย และกำจัดเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก รวมทั้งการสาธิตวิธีแปรงฟัน นวดเหงือก
และการใช้ไหมขัดฟันโดยทันต์แพทย์ และหากมีก้อนเนื้องอก ( Pregnancy Tumor ) ที่เหงือก ก็
ควรตัดออกด้วย
การวิจัยพบว่า สุขภาพช่องปากของมารดายังมีความสัมพันธ์กับการคลอดก่อนกำหนด (Preterm)
และภาวะทารกมีน้ำหนักต่ำกว่ามาตราฐาน ( Low Birth Weight ) อันมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อใน
ช่องปากจากโรคเหงือกอักเสบ ( Periodontal Infection ) หญิงมีครรภ์ที่มีปัญหาโรคเหงือกอักเสบมี
โอกาสคลอดบุตรก่อนกำหนด และมีน้ำหนักต่ำกว่ามาตราฐาน สูงกว่าหญิงมีครรภ์ปกติที่เรียกว่า
Prostaglandin นั้น มี เพิ่มสูงขึ้นในผู้ที่เป็นโรคเหงือกอักเสบรุนแรงนั่นเอง จากรายงานในปี
1999 พบว่า 23 % ของหญิงอายุตั้งแต่ 30-54 ปี เป็นโรคปริทันต์ อักเสบ ( Pereiodontal )
ผลการวิจัยพบว่า ผู้ที่มีเหงือกอักเสบเป็นจำนวนมากมีโอกาสคลอดก่อนกำหนด และน้ำหนักทารก
ต่ำกว่ามาตราฐาน โดยมีโรคปริทันต์อักเสบในช่องปากเพียง 2 แห่งเท่านั้น
ดังนั้น ก่อนที่ท่านจะเป็นคุณแม่ ก็ควรได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากเสียก่อนเพื่อป้องกันปัญหา
ดังกล่าว
อนึ่ง คุณผู้หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิดหรือหญิงที่ได้รับการผ่าตัดมดลูกและรังไข่ (Total
Hysterectomy ) และหญิงวัยหมดประจำเดือนที่ได้รับฮอร์โมนเพศเสริม ก็อาจเป็นโรคเหงือก
อักเสบได้ เช่นเดียวกับหญิงมีครรภ์ เนื่องจากยาคุมกำเนิดส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยฮอร์โมน
เพศหญิงดังกล่าวแล้ว
สิ่งที่คุณผู้หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิดควรทราบด้วยก็คือยาปฏิชีวนะบางชนิดที่ใช้ในการรักษา
โรคเหงือกอักเสบ มีผลทำให้การทำงานของยาคุมกำเนิดลดลง ทำให้ท่านมีโอกาสตั้งครรภ์สูงขึ้น
ได้ ท่านจึงควรใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นๆ เสริม เช่น การใช้ ถุงยางอนามัย (Condom )
อย่าลืมนะคะ สุขภาพช่องปากดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ค่ะ
ที่มาข้อมูล: โดยโรงพยาบาลนครธน คอลัมน์มุมโรงหมอ ์ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
|
|
|