Poj
visit our sponsor
visit our sponsor
Ploy
Mirror Site http://www.geocities.com/thaiparents/
















น้องแพลนกับคุณแม่



น้องแพลนกับคุณพ่อ
"น้องแพลนไปเที่ยวทะเลครั้งแรกในชีวิต"

โดยคุณแม่น้องแพลน (พจนา ปิติชาติ)

เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาดิฉัน สามีและน้องแพลน ไปเที่ยวชุมพรมาไปแค่คืนเดียวเท่านั้นค่ะ ระยะทางค่อนข้างจะไกลไปหน่อยสำหรับการออกต่างจังหวัดครั้งแรกของเด็กแปดเดือนอย่าง น้องแพลนแต่ก็เป็นเที่ยวที่สนุกปนน้ำตานิดหน่อยค่ะ จะสนุกปนน้ำตาอย่างไรก็กำลังจะเล่า ให้ฟังต่อไปนี้ล่ะค่ะ

ดิฉันใช้เวลาเตรียมของใช้สำหรับลูกตามคำแนะนำของคุณแม่อ้อมประมาณครึ่งวันค่ะ ก่อน จะจัดของก็ได้ทำรายการออกมาก่อนว่าต้องนำอะไรไปบ้าง แต่ก็ไม่วายมีลืมของเล็กๆน้อย อย่างเช่น สบู่ และแชมพู ของลูก ต้องอาศัยสบู่ของดิฉันอาบน้ำ ส่วนผมก็สระด้วยน้ำเปล่า อย่างเดียว

ขาไปใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ออกจากกรุงเทพฯ ประมาณ 8 โมงเช้า ไปถึงที่พักที่หาดทุ่ง วัวแล่น ประมาณ บ่ายโมง เป็นช่วงที่แดดกำลังแรงเลยเชียวค่ะเลยพาน้องแพลนเดินเล่น ตากลมบริเวณลอบบี้โรงแรมพอให้เห็นทะเลไกลๆซักพัก แล้วจึงพาเข้าห้องพัก เพื่อจัดของ ให้เรียบร้อย


โชคดีที่นำรถหัดเดินไปด้วย เลยให้ลูกสาวนั่งในนั้นแล้วปล่อยให้เดินตามใจชอบ แต่ก็คอย ระวังตลอดเวลา โดยมีคุณพ่อแกช่วยดูอีกแรง ปรากฏว่าแกตื่นเต้นดีใจส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด เดินไปทั่วห้องพักเชียวค่ะ ทำให้ช่วยผ่อนแรง แล้วยังได้จัดของใช้เข้าที่จนเรียบร้อยเชียว ค่ะ

พอจัดของเสร็จ ก็จับแกป้อนข้าวมื้อกลางวันที่เตรียมจากบ้านไปให้ ทาน ก็ทานได้ไม่หมด ชาม คงจะห่วงเล่นมาก เลยหยุดป้อนแล้วพาออกไปนั่งเล่นที่ร้านอาหารของโรงแรมแล้ว ดิฉันกับสามีก็ผลัดกันอุ้มลูกระหว่างที่อีกคนทานกลางวัน ดูลูกสาวมีความสุขมากกับ บรรยากาศชายทะเลที่เห็นเป็นครั้งแรกของแก แค่นี้ดิฉันก็รู้สึกว่าคุ้มค่ากับระยะทางที่มา แล้วค่ะ

เสร็จจากมื้อกลางวันแล้วเห็นว่าแดดยังจัดมากเลยตัดสินใจพาแกกลับห้องพักอีกครั้งให้แก ได้ทานนมแล้วหลับอีกซักพักรอแดดร่มแล้วถึงจะพาไปลงเล่นน้ำทะเล ก็ประมาณ 5โมงเย็น เกือบ 6โมงนั่นแหละค่ะ กว่าจะได้ลง ก่อนลงไปเจอน้ำทะเล ก็ให้แกได้ลองเดินบนทรายดู ปรากฏว่าแกแขยงเท้าตอนที่แตะโดนพื้นทรายครั้งแรก แต่ก็ยอมย่ำเล่นในที่สุดค่ะ

กับน้ำทะเลแกก็ชอบมากตีน้ำจนหน้าตาเปียกพอได้รสเค็มของน้ำทะเล นึกว่าจะหยุดเล่น ที่ ไหนได้กลับชอบใจตีน้ำไม่หยุดเลยค่ะ ให้เล่นได้ซักสิบนาทีได้ถ่ายรูปพอสมควร ก็พาขึ้น เพราะอากาศเริ่มเย็นลงกลัวไม่สบาย กลับมาอาบน้ำที่ห้องพักก็เจอปัญหานิดหน่อยเพราะ ห้องน้ำมีแต่ฝักบัว ไม่มีอ่างอาบน้ำเลยต้องช่วยกับอาบทั้งพ่อทั้งแม่โดยให้พ่อคอยอุ้มแล้ว ดิฉันจับถูสบู่และสระผม ดีที่ผมลูกไม่เปียกเลยใช้แค่น้ำเปล่าสระก็พอค่ะ

คืนนั้นแกหลับตามเวลาปกติของแก มีกินนมระหว่างคืนตามปกติเช่นกันจนเช้า ออกจะตื่น สายกว่าปกตินิดหน่อย แต่ก็ตื่นขึ้นมาอย่างอารมณ์ดีดิฉันพาลูกไปป้อนมื้อเช้าที่เก้าอี้ชาย ทะเลของทางโรงแรม ทานได้มากพอสมควร เพราะตอนเช้าอากาศดีมาก เราพากันถ่ายรูป อีกพักใหญ่ แล้วถึงกลับมาอาบน้ำ แต่งตัวเพื่อออกไปทานมื้อเช้า


มื้อเช้าของพ่อแม่ก็ต้องไปทานบุฟเฟ่ต์ของโรงแรมที่ได้แถมฟรีมา 1 มื้อ เราผลัดกันทานตาม เคย แต่คราวนี้สนุกดีเพราะมีเพื่อนทานข้าวเยอะแยะเลย พอดีว่าคืนที่เราไปพักมีกรุ๊ปทัวร์ มาลงถึง 2 กรุ๊ป มื้อเช้าเลยไม่เงียบเหงา น้องแพลนเองก็ชอบอยู่กับคนมากๆ ชอบมองคน มองจนเหลียวหลัง แถมมีการออกเสียงเรียก "เอ้ย เอ้ย" ด้วย ทำให้คนที่ไม่ได้สนใจเค้า กลับต้องหันมามองตอบ แล้วทักทายกันเป็นที่ชอบอกชอบใจของทั้งสองฝ่ายเพราะลูกสาวยิ้ม ง่าย ชอบทักทายคนแปลกหน้า แต่ไม่ยอมให้อุ้มง่ายๆหรอกนะคะ

ทีนี้ระหว่างที่พ่อเค้าทานข้าว ดิฉันก็พาแกอุ้มเดินดูอาหารพร้อมกับบอกแกว่ามีอะไรบ้าง แก ชอบดูมากสังเกตจากอาการถูขาเตะอย่างชอบใจ จนดิฉันเกือบจะอุ้มไม่อยู่ เราแวะเวียนจน ครบทุกซุ้มก็พอดีคุณพ่อแกทานข้าวอิ่ม แล้วก็ได้เปลี่ยนกันอุ้ม

อ้อ!เราเจอฝนตกปรอยๆระหว่างมื้อเช้า ตกทั้งๆแดดออกอย่างนั้นแหละค่ะ เลยทำให้ไม่ สามารถพาแกออกไปเดินเล่นอีกรอบนึงได้ก็เลยกลับไปห้องพัก ให้แกได้นอนรอบเช้า ดิฉันเห็นว่าอยู่แต่ในห้องพักก็ไม่มีอะไร เลยตัดสินใจเช็คเอ้าท์เร็วหน่อยเพื่อที่จะได้ไปขับ รถดูสถานที่ต่างๆก่อนจะเดินทางกลับ


เราเลยออกมาจากโรงแรมประมาณ 11โมงเช้า ไปหาดทรายรี และศาลกรมหลวงชุมพร ทาน มื้อกลางวันแล้วก็กลับกรุงเทพฯ ระหว่างทางจะแวะดูของพื้นเมืองและซื้อของฝากกลับบ้าน น้องแพลนชอบมากที่ได้แวะเป็นพักๆลงไปดูนู่นดูนี่ จนถึงเพชรบุรีอันเป็นสถานที่ที่เกิด เหตุการณ์ตื่นเต้น เราแวะที่เพชรปิ่นแก้วเพื่อซื้อขนมหม้อแกงกับของฝาก

คุณพ่อเป็นคนอุ้มน้องแพลน ส่วนดิฉันมีหน้าที่เลือกซื้อแล้วจ่ายตังค์ น้องแพลนก็จะยิ้ม ทักทายคนขายของไปเรื่อย จนถึงร้านปลาหมึกที่สามีชอบทานพอเลือกจนได้ตามต้องการ แล้วก็จ่ายเงิน เจ้าของร้านที่ขายไปเล่นไปกับลูกสาวเกิดเอ็นดู ฉีกปลาหมึกบดแบนๆชื้น ใหญ่ให้ลูกสาว ตอนแรกคุณพ่อบอกว่าอย่าให้กินเลยเพราะกลัวจะติดคอ แต่ดิฉันเกรงใจ เจ้าของร้านกลัวเค้าจะเสียน้ำใจเลยไม่ได้ปฏิเสธ และเห็นว่าชื้นใหญ่มากคงกัดไม่ขาดไม่ เป็นไร




มุมการกุศล : Charity area




Email Login
Password
New users
sign up!



Home | ข่าวสุขภาพ | การตั้งครรภ์-การคลอด | การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ | ทารกแรกเกิด - ๑ ขวบ
เด็กวัย ๑-๕ ขวบ | Working Mom | การเงินในครอบครัว | สาระน่ารู้ภายในบ้าน | Dad's Corner


maeaom@hotmail.com
Thaiparents.com 2000
All rights reserved