ให้ความรู้เกี่ยวกับลูกสำหรับพ่อแม่

visit our sponsor

Mirror Site http://www.geocities.com/thaiparents/

เตือนระวังเด็กเล็กเป็น "โ รคหัดญี่ปุ่น"

กุมารแพทย์ รพ.จุฬาฯ เตือนพ่อแม่ที่มีลูกอายุน้อยกว่า 4 ปี อย่านิ่งนอน ใจ เมื่อลูกมีอาการเป็นไข้ ให้ระวังอาจเป็นโรคหัดญี่ปุ่น หรือโรคคาวา ซากิได้ โดยเฉพาะในรายที่เป็นไข้นานเกิน 5 วัน และพบอาการผิด ปกติในช่องปาก เช่น ริมฝีปากแตก คอหอยแดง ลิ้นแดงจัด ชี้หากไม่ ได้รับการรักษา 20 เปอร์เซ็นต์จะเกิดภาวะแทรกซ้อนของหัวใจ

รศ.พญ.ศศิธร ลิขิตนุกูล กุมารแพทย์รพ.จุฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่า โรคหัดญี่ปุ่นนี้ เป็นชื่อที่เรียกให้ง่ายขึ้นของโรคคาวาซากิ ซึ่งถูกค้น พบโดยนายแพทย์ชาวญี่ปุ่นชื่อ โอมิซากุ คาวาซากิ เมื่อปี พศ. 2510 ซึ่งได้ทำการรวบรวมผู้ป่วยเด็กญี่ปุ่นได้ 50 ราย นับตั้งแต่ปี พศ. 2504 เป็นต้นมา

โดยเด็กเหล่านั้นมีอาการไข้ มีผื่นขึ้นตามตัว ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอโต ตาแดง หูแดง ปากแดง หนังลอกบริเวณปลายนิ้ว ซึ่งต่อมาพบว่าโรคดัง กล่าวนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะในเด็กญี่ปุ่นเท่านั้น แต่เกิดได้กับทุกชนชาติ แต่อุบัติการณ์ของโรคจะพบในคนเอเชียมากกว่าคนผิวขาว

ปีที่ผ่านมา ได้มีการศึกษาวิจัยมากมายเกี่ยวกับโรคนี้ ทว่าจนปัจจุบัน ก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่เกิดโรคนี้ได้อย่างแน่นอน แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่า น่าจะเกิดกับโรคติดเชื้อ โดยอาการแสดงที่พบเป็นปฏิกริยาที่เกิดจาก ภูมิต้านทานของร่างกายตอบสนองต่อการติดเชื้อ ซึ่งอาจเกิดจากเชื้อ แบคทีเรีย หรือไวรัสหลายๆ ชนิดก็ได้

รศ.พญ.ศศิธร กล่าวต่อว่า โรคดังกล่าวมักเป็นในเด็กอายุน้อย โดย ร้อยละ 80 พบในเด็กอายุน้อยกว่า 4 ขวบ ส่วนในเด็กที่มีอายุเกิน 12 ขวบก็มีพบได้แต่น้อย นอกจากนี้ยังพบในเด็กชายมากกว่าเด็ก หญิง

ทั้งนี้อาการที่พบ ได้แก่ เป็นไข้สูงนานเกิน 5 วัน ตาแดง พบการ เปลี่ยนแปลงของช่องปาก เช่น ริมฝีปากแตก คอหอยแดง ลิ้นแดงจัด ลักษณะคล้ายผลสตรอเบอร์รี่ ฝ่ามือฝ่าเท้าบวมแดง หนังบริเวณนิ้ว ใต้เล็บลอก ซึ่งมักเกิดในระยะหลังประมาณสัปดาห์ที่สองของการเจ็บ ป่วย

นอกจากนี้ยังมี ผื่นแดงบริเวณลำตัว หน้า แขน ขา และบางรายอาจมี อาการต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอบวมโตอีกด้วย ผู้ป่วยบางราย อาจมีอา การไม่ครบทุกอย่างที่กล่าวมา ซึ่งในจุดนี้ อาจทำให้เกิดปัญหาในการ วินิจฉัยได้

กุมารแพทย์ รพ.จุฬาฯ กล่าวต่อไปว่า นอกจากอาการดังกล่าวแล้ว ยังอาจพบอาการอื่นดังต่อไปนี้ร่วมด้วย ได้แก่ ปวดท้อง ท้องเสีย เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ข้ออักเสบ ถุงน้ำดีโป่งพอง ลิ้นหัวใจอักเสบ กล้าม เนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อบุหัวใจอักเสบ แต่อาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับ ผู้ป่วยทุกราย โดยบางรายอาจไม่มีอาการเหล่านี้ หรือมีอาการร่วมเพียง 1 - 2 อย่างเท่านั้น

"โรคนี้ถ้าเป็นในเด็กอายุน้อย จะพบภาวะแทรกซ้อนของหัวใจได้บ่อย กว่าเด็กโต ถ้าไม่ได้รับการรักษา ร้อยละ 20 จะเกิดภาวะความผิดปกติ ของหัวใจ และอาจเกิดเส้นเลือดหัวใจโป่งพองซึ่งอาจส่งผลให้เกิดกล้าม เนื้อหัวใจตายได้ในภายหลัง หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ทันที ถ้าเส้นเลือด หัวใจที่โป่งพองนั้นแตก แต่ถ้ารักษาอย่างถูกต้อง จะสามารถลดอัตรา ความผิดปกติของเส้นเลือดหัวใจลงได้เหลือเพียงร้อย 3 เท่านั้น"

สำหรับกรณีที่แพทย์ลงความเห็นว่า เด็กผู้ป่วยเป็นโรคหัดญี่ปุ่น และจำ เป็นต้องรักษา ยาที่ใช้ได้ผลดี ได้แก่ แอสไพริน และการให้สารซึ่งเป็น ภูมิต้านทานสำเร็จซึ่งสกัดมาจากน้ำเหลืองของที่เรียกว่า "แกมมากลอบบูลิน" หรือ "อิมมูโนกลอบบูลิน" ทางเส้นเลือด ซึ่งจะทำให้อาการต่างๆ ดีขึ้น เช่น ไข้ลดลง ผื่นจางหายไป ตาหายแดง ฯลฯ และยังสามารถลดอัตราภาวะแทรก ซ้อนเส้นเลือดหัวใจโป่งพองได้ด้วย

ทั้งนี้ สารภูมิต้านทานสำเร็จนี้มีราคาค่อนข้างแพง ขนาดที่ใช้แปรตามน้ำหนัก ตัวของผู้ป่วย โดยเด็กน้ำหนักตัว 20 กก. จะต้องใช้สารนี้คิดเป็นราคาประมาณ 3 หมื่นบาทเศษ ซึ่งเป็นราคาตามโรงพยาบาลรัฐบาล

กุมารแพทย์ รพ.จุฬาฯ กล่าวแนะนำว่า โรคหัดญี่ปุ่นนี้ไม่อาจป้องกันได้ร้อย เปอร์เซ็นต์ เพราะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน แต่วิธีที่ดีที่สุดคือ การพยา ยามรักษาสุขภาพของลูกให้แข็งแรงอยู่เสมอ ให้ลูกรับประทานแต่อาหารที่สะอาด ถูกหลักโภชนาการ ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดูแลสิ่งแวดล้อมของลูกให้สะอาด และหลีกเลี่ยงการพาลูกไปในย่านที่มีผู้คนแอ อัดพลุกพล่าน

ข้อมูล: ข่าวจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 22 กพ. 44

อ่านข่าวอื่นประจำสัปดาห์นี้

ยาคุมฯป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์ไม่ได้

สถานที่ทำงานทำให้เกิดความเครียด

เตือนผู้บริโภคเลี่ยงสมุนไพรไร้มาตรฐาน

ระวังข้อเอ็นไก่ หมูบด เนื้อแดดเดียว อ.ย.พบสารร้าย "บอแรกซ์" เจือปน

ข่าวสุขภาพ

มุมการกุศล : Charity area

Email Login
Password
	New users sign up!

Contact Webmaster

maeaom@hotmail.com

[ Show Full Headers ]