Poj
visit our sponsor
visit our sponsor

Ploy












ทารกกับการร้องไห้

หลายคนคิดว่าทารกแรกเกิดไม่ควรร้องไห้ ที่คิดอย่างนี้ก็เพราะว่าถ้าทารกร้องไห้ขึ้นมา แสดงว่าจะต้องมีสาเหตุอะไรสักอย่างที่ทำให้ร้องไห้ และคุณพ่อคุณแม่ก็จะต้องหาทาง แก้ไขเพื่อให้หยุดร้อง แต่เด็กทารกทุกคนร้องไห้ทั้งนั้น บางคนก็ร้องเอามากๆ เสียด้วย บางทีคุณก็รู้ว่าเป็นเพราะอะไร และก็สามารถทำให้หยุดร้องได้ แต่บางครั้งแม้ว่า เราจะเปลี่ยนผ้าอ้อมให้แล้ว, ให้นมแล้ว, อุ้มเดิน, เห่กล่อม หรือแม้แต่เล่นด้วย ลูกก็ยังไม่หยุดร้องเสียที

ลองใช้วิธีดังต่อไปนี้ดูบ้างก็ไม่เสียหลายนะคะ

ลองให้ลูกดูดนมคุณแม่ บางทีความอบอุ่นจากอกแม่ อาจจะช่วยให้ลูกหยุดร้องบ้างก็ได้

อุ้มทารกแนบอกคุณ แล้วโยกเบาๆ, แกว่งเบาๆ, พูดคุยกับลูกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล อ่อนโยน, ร้องเพลงให้ฟัง หรือว่าเปลี่ยนมาอุ้มลูกใส่เป้อุ้มเด็ก (ถ้าคุณมี) แล้วโอบ ลูกแนบตัวคุณแม่ โยกเบาๆ, แกว่งเบาๆ ยังไม่หยุดร้องก็ลองเต้นรำช้าๆ แล้ว เปิดเพลงคลาสสิคให้ฟังแถมด้วย

อุ้มลูกใส่รถเข็นเด็กแล้วเข็นไปข้างหน้า ถอยหลัง หรือว่าพาลูกออกไปเดินเล่นหน้าบ้าน หรือว่าพาลูกออกไปขับรถเล่นนอกบ้าน โดยนั่งเบบี้ซีท - เก้าอี้นิรภัยสำหรับเด็กแรกเกิด ส่วนมากเด็กๆ มักจะหลับถ้าได้นั่งรถยนต์ แม้ว่าทันทีที่คุณจอดกึกหน้าบ้าน แกก็ตื่นขึ้นมาอีกรอบ แต่อย่างน้อยคุณก็ได้พักบ้างในเวลาที่ขับรถแล้วลูกหลับอยู่

ลองหาสิ่งของพวกโมบาย, ปลาตะเพียนแขวนไว้ให้เหนือเตียงให้ลูกมองเล่น หรือเปิดเพลงช้าๆ นุ่มนวล ให้ลูกฟัง หาของเล่นที่ลูกจับเขย่าแล้วมีเสียงกรุ๋ง กริ๋งให้ลูกจับเล่น

อุ้มลูกนอนพาดไหล่ หรือนอนคว่ำบนตัก แล้วตบก้นลูกเบาๆ อย่างเป็นจังหวะ หรือว่าจับลูกถอดเสื้อใส่แต่ผ้าอ้อมแล้วใช้โลชั่นเพียงเล็กน้อยทาตัวลูกแล้วนวดตัว อย่างเบาๆ นุ่มนวล ถูกจังหวะ พยายามพูดคุยกับลูกในระหว่างนวดตัวด้วย แต่คุณควรให้แน่ใจด้วยว่าอากาศไม่เย็นเกินไป

อาบน้ำอุ่นๆ ให้ลูก ถ้าอากาศเย็น อาจทำให้ลูกรู้สึกดีขึ้น หรืออาบน้าให้ลูกตามปกติ ถ้าอากาศร้อน เมื่อเด็กสบายตัว จะทำให้อารมณ์ดีขึ้น หายหงุดหงิด แต่การอาบน้ำ อาจทำให้เด็กบางคนร้องไห้จ้ามากขึ้น ทั้งนี้ก็เหมือนกับข้ออื่นๆ นั่นล่ะค่ะ คือต้องลองดู อาจทำให้หยุดร้องหรือไม่หยุดก็ได้ แต่เราก็ได้พยายามลอง หลายวิธีแล้วเพื่อลูก

วิธีสุดท้าย หลังจากลูกกินอิ่มนมแล้ว คุณอาจวางลูกบนเตียงที่ปลอดภัยในที่ที่เงียบๆ สงบๆ แล้วออกจากห้องไปสัก 2-3 นาที ลูกอยู่คนเดียวอาจจะหลับก็ได้ เพราะการไปอุ้ม เห่ กล่อม ร้องเพลงให้ลูกฟัง อาจกลายเป็นการไปกระตุ้นให้ลูกตื่น โดยลูกต้องการจะหลับอย่างเงียบๆ ก็ได้

ถ้าลูกคุณร้องไห้มากเหลือเกิน และทำให้คุณหงุดหงิด, พยายามนึกเสียว่า:
ช่วงเวลาที่น่าเบื่อหน่าย เหน็ดเหนื่อยนี้จะไม่เป็นแบบนี้ไปตลอดหรอกชั่วนิจนิรันดร์หรอกค่ะ (ดิฉันผ่านมาแล้ว) ทารกน้อยจะค่อยๆ ปรับตัวเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อม และเริ่มให้ความสนใจในสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเขา แล้วในที่สุดการร้องไห้ของลูกที่เต็มไปด้วยความสับสน หงุดหงิด ก็จะหยุดไปเอง

จำไว้อย่างหนึ่งว่า อย่าโยน หรือเขย่าตัวลูกเด็ดขาด การเขย่าตัวทารกจะทำให้ศีรษะของทารกโยกไปมาอย่างน่ากลัว และจะเป็นอันตรายได้ เพราะอาจทำให้เลือดคั่งในสมองและเป็นอันตรายต่อสมองอย่างยิ่ง

แม้ว่าบางครั้งคุณอาจเหน็ดเหนื่อย, อดนอน, หงุดหงิดแล้วลูกก็ร้องไม่หยุดเสียที รู้สึกแย่เพราะไม่มีใครมาช่วยคุณเปลี่ยนมือเลย คุณอาจรู้สึกว่าโมโหจนอยากจะโยนลูกหรือเขย่าแก แล้วถามว่า ... ไหนบอกมาสิ ว่าเป็นอะไรกันแน่ ทำไมถึงร้องไม่หยุดอย่างนี้.... แต่ว่า อย่าเชียวค่ะ เป็นเรื่องที่อันตรายและน่ากลัวมาก!

พยายามวางลูกบนที่นอนของลูกหรือเตียงของลูกซึ่งคุณแม่ใจว่าปลอดภัย แล้วพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวคุณเอง อย่าโกรธลูก แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าทนไม่ไหวแล้ว ลองโทรศัพท์หาเพื่อนหรือญาติให้มาช่วยดูแลลูกสักพัก






visit our sponsor
visit our sponsor


Home | ข่าวสุขภาพ | การตั้งครรภ์-การคลอด | การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ | ทารกแรกเกิด - ๑ ขวบ
เด็กวัย ๑-๕ ขวบ | Working Mom | การเงินในครอบครัว | สาระน่ารู้ภายในบ้าน | Dad's Corner


maeaom@hotmail.com
Thaiparents.com 2000
All rights reserved