 
|
ชีวิตและสุขภาพ > บทความน่าสนใจ
 |
ฝ้า เป็นผิวหนังที่มีสีเข้มกว่าบริเวณอื่นๆ จนแลดูเป็นแผ่นสีน้ำตาล พบได้บ่อยบริเวณโหนก
แก้ม หน้าผาก ริมฝีปาก และเหนือคิ้ว ฝ้าเกิดจากเซลสร้างเม็ดสีทำงานมากเกินไป
สร้างเม็ดสีได้ไม่สม่ำเสมอ ผิวหนังบริเวณที่มีเม็ดสีมากกว่าปกติจะมีสีเข้ม ที่เรียกกันว่าฝ้า
นั่นเอง
สาเหตุของการเกิดฝ้า
ปัจจัยที่มีการกระตุ้นให้สร้างเม็ดสีมากเกินไป หรือการเกิดฝ้า ได้แก่ฮอร์โมน แสงแดด
ความร้อน และความเครียด ดังต่อไปนี้
- การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน สุภาพสตรีบางคนในช่วงใกล้จะมีประจำเดือนอาจ
เป็นฝ้าได้
- อาจเกิดจากการใช้ยา เช่น บางคนอาจเกิดฝ้าเนื่องจากรับประทานยาคุมกำเนิด
- สภาพแวดล้อม เช่น ผู้ที่โดนแสงแดดอยู่เป็นประจำ ซึ่งแสงจะมีรังสีอัลตร้าไวโอเลต
ที่ทำให้เกิดฝ้า
วิธีหลีกเลี่ยงการเกิดฝ้า
- หลีกเลี่ยงแสงแดด ด้วยการไม่ออกไปอยู่กลางแจ้ง ในเวลาแดดจัด แต่ถ้าจำเป็น
ต้องปกคลุมร่างกายด้วยการใช้ร่มกันแดด หมวกปีกกว้าง หรือใช้เครื่องสำอางผสมสาร
ป้องกันแสงแดด
- หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ความร้อนจากเตาไฟ
- รักษาสุขภาพกาย สุขภาพจิตให้แจ่มใส
- หากเกิดฝ้าหลังการใช้ยา หรือผลิตภัณฑ์ใด ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
การแก้ไขการเกิดฝ้า
การขจัดฝ้านั้นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไปลดการสร้างเม็ดสี พร้อมกันนั้นก็ต้องลดปัจจัยที่ไปกระ
ตุ้นการสร้างเม็ดสีด้วย เพื่อป้องกันการเกิดฝ้าขึ้นอีก ผลิตภัณฑ์ที่ไปปรับระดับของฮอร์โมน
หรือลด หรือยับยั้งการสร้างเม็ดสี ถือว่าไปมีผลต่อการทำงานของร่างกาย เข้าข่ายเป็นยา
ต้องผ่านการขึ้นทะเบียนตำรับยา มีจำหน่ายได้เฉพาะในร้านขายยา และต้องได้รับอนุญาต
ก่อนทำการโฆษณา
ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ทาฝ้า จะช่วยลดปัจจัยที่กระตุ้นการเกิดฝ้า ป้องกันการเกิดฝ้า
หรือปกปิดฝ้าได้ดังนี้
- เครื่องสำอางที่ผสมสารป้องกันแสงแดด จะช่วยสะท้อนหรือดูดซับรังสีอัลตร้าไวโอเลต
จากแสงแดดไม่ให้ไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสี
- เครื่องสำอางประเภทครีมรองพื้น หรือแป้งทาหน้าสามารถกลบเกลื่อน หรือปกปิดรอย
ฝ้าได้
อันตรายจากผลิตภัณฑ์ทาฝ้า
ปัจจุบันพบว่ามีผลิตภัณฑ์ทาฝ้าที่ลักลอบผสมสารห้ามใช้ เช่น ปรอทแอมโมเนีย
ไฮโดรควิโนน และกรดวิตามินเอ วางขายในลักษณะเป็นเครื่องสำอาง แต่โฆษณาสรรพ
คุณไปในทางยาว่าสามารถยับยั้งการสร้างเม็ดสี ขจัดฝ้า ลอกฝ้าออกได้ มีข้อสังเกต
ได้ง่ายๆ คือ มักจะไม่มีฉลากภาษาไทย หรือแสดงฉลากไม่ครบถ้วน ไม่ระบุชื่อ
ที่ตั้งผู้ผลิต หรือวันเดือนปีที่ผลิต
อันตรายของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มีมากมาย ตั้งแต่ การะคายเคือง แสบร้อน เกิดจุดด่างขาว
หรือเป็นฝ้าถาวร รวมทั้งพิษสะสมของโลหะปรอท ซึ่งจะไปมีผลต่อไต และทางเดินปัสสาวะ
ข้อควรระวังในการซื้อและใช้เครื่องสำอางทาฝ้า
เครื่องสำอางทาฝ้าไม่อาจขจัดฝ้าที่สาเหตุได้โดยตรง จะช่วยได้เพียงลดความเสี่ยง หรือปกปิด
กลบเกลื่อนให้แลดูดีขึ้นเท่านั้น ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มีจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไป ก่อนซื้อและ
ใช้ควรระมัดระวัง ดังนี้
- เลือกซื้อเครื่องสำอางที่มีฉลากภาษาไทย ซึ่งระบุสาระสำคัญอย่างครบถ้วน สื่อความหมาย
ได้ชัดเจน มีชื่อเครื่องสำอาง / ประเภทหรือชนิด / ส่วนประกอบสำคัญ / วิธีใช้ / ชื่อและที่ตั้ง
ของผู้ผลิต / วันเดือนปีที่ผลิต / ปริมาณสุทธิ
- หากใช้ผลิตภัณฑ์ใดเป็นครั้งแรก ควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้ ด้วยการทาผลิตภัณฑ์
จำนวนเล็กน้อยลงบริเวณท้องแขน ทิ้งไว้ 24-48 ชั่วโมง หากไม่มีความผิดปกติใดๆ
เกิดขึ้น แสดงว่าใช้ได้
- หากใช้ผลิตภัณฑ์ใดแล้วมีความผิดปกติเกิดขึ้น ให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด และหยุดใช้
ผลิตภัณฑ์นั้น ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรต่อไป
ข้อมูล:
กองเผยแพร่และควบคุมการโฆษณา
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
กระทรวงสาธารณสุข โทร.590-7118
back
| |
|
