Poj
visit our sponsor
visit our sponsor

Ploy












ข่าวสุขภาพ  >
การขับรถในช่วงเทศกาลสงกรานต์

โดย ศูนย์การขับรถอย่างปลอดภัย
บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด


        ช่วงเทศกาลสงกรานต์ หลายท่านอาจมีแผนการที่จะขับรถออกไปท่องเที่ยวยังต่างจังหวัด แต่หลายท่านก็อาจจะฉลองสงกรานต์อยู่ในเมือง

ศูนย์การขับรถอย่างปลอดภัยรู้สึกห่วงใยเกี่ยวกับความปลอดภัยของท่านบนท้องถนน ทั้งนอก เมืองและในเมือง ทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืนในระหว่างเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเราอาจ คาดการณ์ล่วงหน้าได้ดังนี้ว่า
  1. จะมีการใช้รถใช้ถนนมากกว่าปกติ โดยเฉพาะที่ต่างจังหวัดและเมืองท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ ลำปาง อื่นๆ
  2. จะมีผู้เสพสุรามึนเมาในการขับรถมากกว่าปกติ
  3. จะมีผู้ขับรถเร็ว คึกคะนอง และประมาท มากกว่าปกติ
  4. จะมีผู้ขับรถหลายท่านขับรถด้วยความอ่อนเพลียมากกว่าปกติ
  5. จะมีการละเล่นสาดน้ำกันมากซึ่งทำให้ถนนบางช่วงหรือบางเส้นทางลื่นมากกว่าปกติ
  6. จะมีคนที่เล่นสาดน้ำถลำออกมาบนถนนโดยไม่ระมัดระวัง รวมถึงระวังคนเล่นน้ำที่ยืน หรือนั่งอยู่ท้ายรถกะบะที่อาจพลัดตกลงมาได้
  7. จะมีน้ำสาดมาที่รถท่านซึ่งทำให้ทัศนวิสัยเสียไปในระหว่างนั้น
  8. จะมีรถหยุดกะทันหันโดยไม่ให้สัญญาณ และหรือ เบี่ยงออก หรือขับเข้ามาในเลนของ ท่านอันเนื่องมาจากการสาดน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมอเตอร์ไซค์
  9. จะมีผู้ขับรถบางท่านที่ไม่รู้จักหรือไม่ชำนาญเส้นทางปะปนอยู่ด้วยมากกว่าปกติ
  10. ระวังจะมีคนเดินเท้าโดยเฉพาะคนเมาโดดขวางรถของท่านเพื่อขอเรี่ยไรเงินทำบุญ โดย อาจสังเกตได้จากข้างหน้าว่ามีการตั้งจุดเรี่ยไรอยู่หรือไม่ หรือมีขบวนบุญแห่อยู่ข้างหน้าซึ่งต้อง เพิ่มความระวังเป็นพิเศษ
  11. เนื่องจากเป็นระยะเวลาที่อากาศร้อน ถนนบางเส้นทางอาจเกิดไฟไหม้ขึ้นที่ข้างทาง และหรือมีคนจุดไฟเผาทำให้เกิดกลุ่มควันปกคลุมถนนเป็นบริเวณกว้าง
ศูนย์ ฯ จึงขอแนะนำท่านในการขับรถในระหว่างเทศกาลสงกรานต์ดังนี้

๑. เตรียมร่างกายของผู้ขับและเตรียมรถของท่านให้พร้อม สาเหตุของอุบัติเหตุประการสำคัญคือเกิดจากคน และต่อไปก็คือเกิดจากอุปกรณ์ของรถบกพร่อง

สำหรับคน ขอให้พักผ่อนให้เพียงพอก่อนการขับรถทางไกล อย่าดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก่อน การขับรถอย่างน้อย ๖ ชั่วโมง รวมถึงยาแก้ไข้ที่มีผลทำให้ซึมเซาและง่วงนอน ขับรถด้วยความ ระมัดระวัง มีสมาธิ และรักษาอารมณ์ของท่านให้ดี ก่อนออกรถอย่าลืมรัดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง ทั้งตัวท่านและผู้โดยสาร

กรณีที่ต้องขับรถไกลๆ เราขอแนะนำให้หยุดรถเพื่อพักผ่อนหรือเปลี่ยนอิริยาบททุก 2-3 ชั่วโมง อย่ารับประทานอาหารมากจนเกินไป ควรทานให้น้อย แต่บ่อยครั้งจะดีกว่าเพื่อท่านจะได้ไม่ รู้สึกง่วง กรณีที่ไม่รู้จักหรือคุ้นเคยกับเส้นทางขอแนะนำให้ทำการศึกษาเส้นทางก่อนออก เดินทาง อุบัติเหตุหลายครั้งเกิดจากการไม่รู้จักหรือไม่ชำนาญเส้นทางอย่างเพียงพอ เช่น เดียวกันกรณีถ้าเราขับรถตามรถคันหน้าที่ป้ายทะเบียนแตกต่างไปจากป้ายทะเบียนท้องถิ่น เช่น ป้ายทะเบียน กทม. แต่ไปอยู่ที่เชียงใหม่ ก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ขับรถนั้นมาเที่ยว และอาจไม่รู้จักและคุ้นเคยกับเส้นทางเช่นกัน

สำหรับอุปกรณ์ของรถ เราขอแนะนำหลัก BEWAGON ดังนี้

๑.๑ Break ตรวจระบบเบรกและคลัทซ์ของท่านว่ายังใช้งาน ได้ดี ไม่รั่วซึม ตรวจ เติมน้ำมันเบรกและน้ำมันคลัทซ์ด้วย

๑.๒ Electrical ตรวจระบบไฟและแบตเตอรี่ ไฟรถ ไฟสัญญาณ ทุกดวง สายไฟ สายพานรถ ระดับน้ำกลั่น และขั้วของแบตเตอรี่ว่าถูกต้องและแน่นหนา หัวเทียน เตรียมฟิวส์สำรองไว้บ้าง สำหรับรถเกียร์ออโตเมติกควรมีสายพ่วงแบตเตอรี่ติดรถไว้ด้วย

๑.๓ Water น้ำหม้อน้ำ ถังพักน้ำสำรอง ตรวจสภาพฝาหม้อน้ำ ท่อยาง น้ำล้างกระจก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งยางปัดน้ำฝนต้องอยู่ในสภาพดีเนื่องจากต้องใช้งาน อย่างแน่นอน

๑.๔ Air ตรวจลมยาง สภาพของยาง ดอกยาง เครื่องมือเปลี่ยนยาง เติมลมยางอะไหล่ ตรวจเติมน้ำยาแอร์ และสายพานแอร์ด้วย

๑.๕ Gasoline มีน้ำมันในถังพอที่จะไปถึงจุดหมายปลายทาง ตรวจไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง รอยรั่วต่างๆ ว่ามีหรือไม่ อย่าลืมทำความสะอาดไส้กรองอากาศด้วย เพื่อป้องกันการอุดตัน

๑.๖ Oil น้ำมันหล่อลื่น น้ำมันเกียร์ออโตเมติก น้ำมันพวงมาลัย เพาเวอร์ น้ำมันเฟืองท้าย น้ำมันไส้กรองสำหรับรถดีเซล

๑.๗ Noise ติดเครื่องเดินเบา แล้วฟังเสียงที่ผิดปกติ จากนั้น ก็ขับรถเข้าไปในซอยเงียบ ๆ แล้วฟังเสียงผิดปกติอีกครั้ง ถ้ามีเสียงแปลก ๆ ขอให้ปรึกษาช่าง ประจำของท่าน

อย่าลืมเดินตรวจสอบรอบๆรถสัก 1 รอบ รวมถึงก้มลงมองใต้ท้องรถด้วยเพื่อมองหาสิ่งผิดปกติที่ อาจเกิดขึ้นกับรถของท่าน

ถ้าท่านไม่มีเวลาที่จะดูแลสิ่งเหล่านี้ด้วยตนเอง กรุณามอบความไว้วางใจกับศูนย์ ProServ ของ SHELL ทุกศูนย์ และอย่าลืมพกพาเครื่องมือประจำรถที่จำเป็นติดรถไปด้วย

ท่านจะต้องใช้การคาดการณ์ล่วงหน้าในระหว่างขับรถมาก กว่าปกติ เนื่องจากผู้อื่นจะใช้ความระมัดระวังในช่วงเทศกาลสงกรานต์น้อยลง ท่านจึงต้องเพิ่ม ความระมัดระวังในการขับรถของท่านให้มากขึ้น นำหลักการขับรถด้วยการสังเกตการณ์ล่วงหน้า มาใช้อย่างเคร่งครัด หลักก็คือ

๒.๑ สังเกตการณ์ไปไกล ๆ ว่าท่านมองเห็นอะไรบ้าง กวาด สายตาไปกว้าง ๆ มองหาสิ่งที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ กวาดตามองไปรอบๆทุกๆ 2 - 3 นาทีเพื่อ เก็บภาพต่างๆข้างๆทางและใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการขับรถ

๒.๒ คาดการณ์จากสิ่งที่ท่านสังเกตเห็นว่าน่าจะมีอะไรเกิดตาม มาบ้าง เช่นถ้ามีตลาดนัดอยู่ริมทางหลวง ก็อาจจะมีคนข้ามถนนกระทันหันในเวลาใดเวลาหนึ่ง เป็นต้น สำหรับช่วงสงกรานต์สิ่งที่อาจคาดการณ์ได้ในบริเวณชุมชน ซอย ทางร่วมทางแยกก็คือ การละเล่นสาดน้ำซึ่งผู้เล่นอาจถลำเข้ามาในทางรถเพื่อสาดน้ำโดยท่านไม่ทันระมัดระวัง รถคัน อื่นอาจหยุดโดยทันที หรือ ขับหลบเข้ามาในเลนของท่านอันเป็นผลมาจากการสาดน้ำ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งมอเตอร์ไซด์

บริเวณที่มีการสาดน้ำถนนจะลื่นกว่าปกติสามารถสังเกตได้จากรอยน้ำบนท้องถนน ท่านจำเป็น ต้องลดความเร็วลง หลีกเลี่ยงการเบรคกระทันหันเพราะจะทำให้ล้อล็อคและรถลื่นไถลไม่สามารถ ควบคุมได้ และเสี่ยงต่อการถูกชนท้าย กรณีที่ท่านสังเกตเห็นรถที่ป้ายทะเบียนไม่ใช่ของท้องถิ่น นั้นๆอาจสันนิษฐานได้ว่าเป็นผู้มาท่องเที่ยวซึ่งอาจไม่รู้จักคุ้นเคยกับเส้นทางและอาจชะลอ หยุด หรือหักรถออกมาในเลนของท่านเมื่อไรก็ได้

๒.๓ เตรียมตัวป้องกันอุบัติเหตุแต่เนิ่น ๆ จากสิ่งที่ท่านคาดการณ์ เอาไว้ว่าอาจจะเกิดขึ้น เช่นชะลอความเร็วของรถลง เพื่อให้สามารถหยุดรถได้ทันในระยะที่ปลอดภัย หรือให้สัญญาณไฟ หรือสัญญาณแตร เพื่อเตือนผู้อื่นตามความจำเป็น

๓. อย่าลืมหลักการดูกระจกหลัง ให้สัญญาณ แล้วจึงเปลี่ยนช่องทาง เดินรถ (Mirror, Signal and Maneuver) ขอเตือนให้ดูกระจกหลังบ่อย ๆ ทุก ๆ ๑๐-๑๕ วินาที ตามหลัก ของ DDC กรณีที่กระจกมองหลังไม่มีหรือเห็นได้ไม่ชัดเจนแนะนำให้ดูกระจกมองข้างทั้งข้างซ้ายและ ข้างขวาประกอบ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหลายครั้งเกิดเพราะคนขับลืมมองกระจกหลัง แล้วใช้ความระมัด ระวังไม่พอ

๔. อย่าขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด สาเหตุลำดับ แรกสุดของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก็คือการขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด การขับรถเร็วจะ เกิดอะไรขึ้นบ้างตามความเร็วที่เพิ่มขึ้น

๔.๑ ท่านจะใช้การสังเกตการณ์ในเหตุการณ์เบื้องหน้าได้น้อยลง เพราะมุมหรือองศาที่ท่านมองผ่านกระจกหน้ารถออกไปจะแคบลง องศาที่ท่านมองจะมากขึ้นหรือ น้อยลงนั้นเป็นอัตราส่วนกับความเร็วของรถที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงเสมอ

๔.๒ ท่านจะมีเวลาในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาน้อยลง

๔.๓ ระยะเบรกและหยุดของรถจะยาวขึ้น ท่านอาจจะหยุดรถ ไม่ได้ระยะดังใจนึก

๔.๔ ความร้ายแรงของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจะมากกว่า

๕. อย่างแซงรถในที่ห้ามแซง ในที่คับขัน ทางร่วมหรือทางแยก เป็นอันตรายอย่างยิ่งถ้าท่านจะทำอย่างนั้น อดใจรอตามหลังรถคันหน้าไปก่อน และแซงรถได้เมื่อ ถูกกฎจราจรและเมื่อท่านเห็นว่าปลอดภัย ระมัดระวังรถมอเตอร์ไซค์ คนเดินถนนและสัตว์บริเวณ ทางร่วมทางแยกดังกล่าวด้วย เป็นสุภาพบุรุษที่จะชะลอรถ และให้ทางรถที่แซงสวนมาไม่พ้นด้วย

๖. ทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้า ๒ วินาที ต้องทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้า ๒ วินาทีทุกขณะเมื่อขับภายในความเร็ว ๘๐ กม./ชั่วโมง และต้องทิ้งระยะมากกว่านั้นเมื่อความเร็วเกิน ๘๐ กม./ชั่วโมง

ถ้าไม่จำเป็นอย่าพยายามขับรถตามหลังรถกระบะ รถบรรทุกที่มีการบรรทุกสิ่งของเพราะสิ่งของเหล่า นั้นอาจตกลงมาได้ รวมถึงรถกะบะที่บรรทุกคนที่เล่นน้ำอยู่ด้านหลังทั้งที่นั่งและยืนอยู่ ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ ได้ควรเพิ่มระยะตามให้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มความระมัดระวังมากกว่าปกติ

ถ้าทัศนวิสัยไม่ดี ฝนตก ถนนลื่น หรือในตอนกลางคืนต้องทิ้งระยะห่างให้มากกว่านั้น เมื่อรถติดการ หยุดรถหลังรถคันหน้าก็ต้องทิ้งระยะห่างให้พอสมควรและขึ้นเบรคมือทุกครั้งด้วยเช่นกัน

๗. การขับรถในเวลากลางคืนและเมื่อทัศนวิสัยไม่ดี เราไม่แนะนำ ให้ท่านขับรถในเวลากลางคืน ท่านควรวางแผนที่จะไม่ขับรถในเวลากลางคืน หรือวางแผนขับรถให้ ถึงที่หมายก่อนค่ำ

ถ้าจำเป็นที่จะต้องขับรถในเวลากลางคืน หรือเมื่อทัศนวิสัยไม่ดี เราขอแนะนำดังนี้

๗.๑ เปิดไฟใหญ่ตั้งแต่เวลาโพล้เพล้หรือเมื่อทัศนวิสัยไม่ดี แสง สว่างไม่เพียงพอที่จะมองเห็นคน รถหรือสิ่งกีดขวางในทางได้ชัดแจ้งภายในระยะน้อยกว่า 150 เมตร เช่นฝนตก หมอกลง หรือขับรถเข้าไปในกลุ่มควัน แม้ว่าการเปิดไฟหรือไม่เปิดไฟใหญ่ในเวลาที่ทัศน วิสัยไม่ดี เราก็อาจมองไม่เห็นทางพอกัน แต่เราขอแนะนำให้ท่านเปิดไฟใหญ่ เพราะเราต้องการ ให้คนอื่นมองเห็นท่านจากไฟรถของท่านด้วย มิใช่เพื่อให้ท่านเห็นทางแต่เพียงอย่างเดียว แน่ใจว่า ท่านต้องมองเห็นถนนด้านหน้าก่อนขับรถเข้าไป ถ้าไม่แน่ใจขอแนะนำให้นำรถเข้าจอดที่ข้างทาง ที่ปลอดภัย เปิดไฟหรี่และไฟฉุกเฉินไว้ด้วยเพื่อให้ผู้อื่นเห็นรถของท่านเพื่อป้องกันมิให้ผู้อื่นมาชนท้าย

๗.๒ ลดความเร็วลง ขับรถด้วยความเร็วที่ปลอดภัยที่ท่านสามารถ จะหยุดรถได้ทันในระยะที่ท่านมองเห็นทาง หรือที่ไฟหน้ารถส่องถึงเท่านั้น

๗.๓ สังเกตกับดักในระหว่างทางให้ดี กับดักในที่นี้คือสิ่งที่เป็นอัน ตรายที่สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายถ้าท่านมองไม่เห็นมัน เปิดไฟใหญ่สูงเป็นครั้งคราวเพื่อมอง หากับดัก แต่อย่าเปิดตลอดเวลาเพราะจะเข้าตารถที่สวนทางมา ใช้ไฟต่ำทุกครั้งที่สวนกับรถอื่น

๗.๔ สังเกตแนวเส้นขอบถนน ป้ายจราจร ป้ายเตือน และป้ายห้าม ต่าง ๆ พยายามสังเกตคนเดินข้างถนน และล้อเลื่อนที่ไม่มีไฟท้ายรถด้วย

๗.๕ กระพริบไฟใหญ่ให้รถคันหน้าได้ทราบเมื่อท่านต้องการจะ แซง ขอให้แซงรถเมื่อท่านแน่ใจว่าไม่มีอันตราย

๗.๖ กรณีที่เจอสภาพอากาศที่เลวร้าย เช่นฝนตก ถนนลื่น โดย เฉพาะในช่วงชั่วโมงแรกขอแนะนำให้ลดความเร็วของรถลงเหลือประมาณ 2/3 และเพิ่มระยะตาม เป็น 2 เท่า คือประมาณ 4 วินาที บนถนนที่ลื่นรถอาจเกิดการลื่นไถลและไม่สามารถควบคุมได้ถ้า เราใช้ความเร็วมากเกินไปและมีการหมุนพวงมาลัย หรือ เบรคกระทันหันซึ่งจะทำให้ล้อล็อคตายและ ไม่สามารถบังคับรถได้

๗.๗ ก่อนเหยียบเบรคทุกครั้งต้องมองกระจกหลังก่อนเพื่อป้อง กันการถูกชนท้าย

๘. ขับรถด้วยความระมัดระวังและมีความสำนึกที่จะหลีกเลี่ยง อุบัติเหตุ ให้มีสมาธิในการขับรถอยู่ตลอดเวลาและมีสำนึกที่จะหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ ขับรถด้วยความ เอื้ออารีต่อผู้ใช้รถใช้ถนนด้วยกัน

ขอให้ทุกๆ ท่านขับรถอย่างปลอดภัยในระหว่างเทศกาลสงกรานต์นี้

สวัสดีปีใหม่สงกรานต์ไทยแด่ทุกท่านค่ะ



ข้อมูล: ศูนย์การขับรถอย่างปลอดภัย (Shell Defensive Driving Centre) บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด


back




Home | ข่าวสุขภาพ | การตั้งครรภ์-การคลอด | การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ | ทารกแรกเกิด - ๑ ขวบ
เด็กวัย ๑-๕ ขวบ | Working Mom | การเงินในครอบครัว | สาระน่ารู้ภายในบ้าน | Dad's Corner


maeaom@hotmail.com
Thaiparents.com 2000
All rights reserved