Poj
visit our sponsor
visit our sponsor

Ploy












ข่าวสุขภาพ  >
เด็กประถมควรนอนอย่างน้อย 9 ชั่วโมง
เด็กนักเรียนชั้นประถมควรนอนหลับในตอนกลางคืนอย่างน้อย 9 ชั่วโมง
ดร.คาร์ล ฮันท์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการนอนหลับผิดปกติแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริการะบุว่า การนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอจะส่งผลกระทบต่อการเรียนของเด็ก ซึ่งหากได้พูดคุยกับครูผู้สอนจะทราบว่า เด็กส่วนใหญ่มีอาการง่วงเหงาหาวนอนอยู่บ่อยๆ และเด็กที่นอนน้อยนั้นไม่สามารถมีผลการเรียนที่ดีได้ และยังส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมและอารมณ์ของเด็กอีกด้วย นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่าเด็กนักเรียนที่ถูกส่งตัวมารักษาที่ห้องพยาบาล เนื่องจากประสบอุบัติเหตุ ก็มีผลมาจากการนอนน้อยด้วยเช่นกัน

ทางศูนย์วิจัยฯ ดังกล่าวจึงรณรงค์ให้พ่อแม่ผู้ปกครองและครูอาจารย์พยายามส่งเสริมให้เด็กๆ อายุ 5 - 11 ขวบ นอนหลับพักผ่อนให้ได้อย่างน้อย 9 ชั่วโมง จึงจะนับว่าเพียงพอ ทั้งนี้ เพราะว่าการนอนหลับที่ดีมีส่วนสำคัญต่อการทำให้มีสุขภาพดี เท่ากับการบริโภคอาหารที่ดีสำหรับทุกๆ คนไม่เฉพาะต่อเด็กๆ เท่านั้น

ทางด้านซูซาน เจฟฟ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคนอนไม่หลับในเด็กและผู้ใหญ่ กล่าวเสริมว่า จำนวน 9 ชั่วโมงนั้น เป็นเพียงค่าเฉลี่ยเท่านั้น โดยเด็กอายุ 11 ปี อาจต้องการนอนเพียง 8 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนเด็กที่อายุ 7 ขวบควรนอนให้ได้ 11 ชั่วโมง ซึ่งขึ้นอยู่กับอายุของเด็กแต่ละคน แต่โดยทั่วไปที่พบนั้น เด็กประถมส่วนใหญ่นอนหลับไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

ซูซาน เจฟฟ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ชีวิตประจำวันของเด็กสมัยนี้มีกิจกรรมมากมายหลายอย่าง ไม่เพียงแต่ไปโรงเรียนทั้งวันเท่านั้น ไม่เหมือนสมัยก่อน เด็กสมัยนี้ต้องเรียนภาษาที่สอง, คอมพิวเตอร์ และวิทยาศาสตร์ จากนั้นจึงกลับบ้านมาทำการบ้านเป็นชั่วโมง นอกจากนี้เด็กเหล่านี้ยังต้องการเวลาที่จะเล่นคอมพิวเตอร์ ดูทีวีอีกสองชั่วโมง แล้วยังเล่นเกมส์บอยอีกด้วย นอกเหนือจากเวลาที่ต้องทานอาหาร อาบน้ำ และพูดคุยกับพ่อแม่ ฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เด็กจะต้องเรียนรู้การนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่เสียแต่อายุยังน้อย เพื่อจะได้มีนิสัยการนอนที่ดีเมื่อเป็นผู้ใหญ่ เหมือนกับการมีนิสัยการกินที่ดีนั่นเอง


การนอนหลับไม่เพียงพอมีผลต่อการเจริญเติบโตและอาจทำให้เด็กเจ็บป่วยได้ โดยก่อนที่จะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ การนอนหลับไม่เพียงพอมีผลทำให้ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เพราะฮอร์โมนการเจริญเติบโตจะถูกผลิตขึ้นในขณะที่กำลังหลับ นอกจากนั้น ยังนำไปสู่การมีพฤติกรรมที่แย่ลง มีทักษะการสนใจต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดลดลง รวมทั้งทักษะในการฟัง และการรับรู้ก็ลดลงอีกด้วย


back




Home | ข่าวสุขภาพ | การตั้งครรภ์-การคลอด | การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ | ทารกแรกเกิด - ๑ ขวบ
เด็กวัย ๑-๕ ขวบ | Working Mom | การเงินในครอบครัว | สาระน่ารู้ภายในบ้าน | Dad's Corner


maeaom@hotmail.com
Thaiparents.com 2000
All rights reserved