Poj
visit our sponsor
visit our sponsor
Ploy









- อาหารค่ำพร้อมหน้า
- เครื่องปรับอากาศ
- ขับรถตอนกลางคืน
อาหารค่ำพร้อมหน้า

ฟังแล้ว...จะเป็นไปได้เหรอสำหรับการจราจรที่ติดขัดแบบนี้ และเวลาที่แทบจะไม่มีให้แก่กันอยู่แล้ว ถามจริงๆ เถอะใครจะมีเวลาบ้าง แค่กลับมาทานข้าวเย็นแล้วรีบๆ เข้านอน ตอนเช้าก็ต้องรีบๆ ตื่น แวะส่งลูกที่โรงเรียนแล้วรีบบึ่งไปทำงาน จะมีสักกี่ครอบครัวในปัจจุบัน ที่มีเวลามานั่งทานข้าวเย็นพร้อมหน้าพร้อมตากัน แล้วพูดคุยถามไถ่ถึงกิจวัตรประจำวัน หรือเหตุการณ์ที่ไปประสบพบเจอนอกบ้าน หรือพูดคุยหยอกล้อกันระหว่างพ่อ แม่ลูก หรือพี่น้องด้วยกัน ก่อนที่จะช่วยกันเก็บโต๊ะอาหารแล้วแยกย้ายกันไปทำกิจกรรมอย่างอื่นต่อไปก่อนที่จะเข้านอน

เดี๋ยวค่ะ อย่าเพิ่งเบ้หน้านะคะ ถึงอย่างไรก็ตาม การนั่งทานอาหารเย็นพร้อมหน้าพร้อมตากันเหมือนสมัยก่อน ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวที่จะทำให้เกิดความรักใคร่กลมเกลียว ทำให้พี่น้องสนิทสนมกันยิ่งขึ้น และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จนกระทั่งต่างแยกย้ายกันไปมีครอบครัวของตัวเอง

การที่จะให้ทุกคนมานั่งทานข้าวพร้อมกันสม่ำเสมอ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าจะลองพยายามดูบ้าง เพราะผลตอบแทนนั้นมีค่ามากเกินกว่าที่เราจะนึกถึง การได้นั่งทานข้าวพร้อมกันทำให้เกิดความรัก ความอบอุ่นระหว่างพี่น้อง เป็นโอกาสดีที่สมาชิกในครอบครัวจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตร่วมกัน และรู้ว่าพี่น้องเรา, พ่อแม่เราเป็นอย่างไรบ้างในแต่ละวัน และทำให้เราได้รับความเห็นอกเห็นใจ และแรงสนับสนุนจากคนในบ้านด้วย โดยเฉพาะหากเราได้ทานข้าวพร้อมกันเป็นประจำเกือบทุกวัน จะทำให้เด็กๆ ในครอบครัวรู้สึกอบอุ่น มั่นคง ท่ามกลางโลกที่แสนจะยุ่งเหยิงและวุ่นวาย แถมยังน่ากลัวอีกต่างหากอย่างในยุคปัจจุบัน (ดูจากทีวี แต่ละวันก็มีแต่ข่าวร้ายๆ ทั้งนั้น...)

เคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการทานข้าวเย็นพร้อมกัน

  • ถ้าคุณไม่สามารถจัดให้มีการทานข้าวเย็นพร้อมกันทุกวัน ก็ไม่ต้องรู้สึกผิด หรือเป็นกังวลมากนัก เริ่มต้นจากวันที่พอจะเป็นไปได้ก่อนที่ทุกคนสะดวก แล้วค่อยๆ จัดให้บ่อยขึ้นจนเป็นกลายเป็นหลายครั้งในหนึ่งอาทิตย์


  • การพูดคุยสนทนาไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นและจบลงเมื่อทุกคนมาพร้อมกันที่โต๊ะอาหาร สมาชิกในครอบครัวโดยเฉพาะเด็กเล็กๆ สามารถพูดคุยกันระหว่างช่วยจัดโต๊ะอาหารได้เลย และก็คุยกันบ้างเล็กน้อยเมื่อทานข้าว และยังคงสนทนากันต่อไปได้จนกระทั่งเก็บโต๊ะอาหารและช่วยกันล้างจาน


  • หัวข้อการพูดคุยควรเป็นเรื่องที่น่ายินดี, สนุกสนาน หรือเบาๆ สบายๆในบรรยากาศของการพักผ่อน ผ่อนคลาย หัวข้อที่ไม่น่าฟัง ข่าวร้าย หรือการวิพากษ์วิจารณ์ที่รุนแรง การตัดสินปัญหาหนักอกหนักใจ ยังไม่ควรนำมาพูดคุยกันระหว่างทานข้าว
  • บทสนทนา, การพูดคุยควรสนับสนุนให้เด็กๆ มีโอกาสได้พูด แสดงความคิดเห็นบ้าง เพราะการมีส่วนร่วมในบทสนทนาระหว่างทานข้าว จะทำให้เด็กๆ รู้สึกว่าตัวเองมีค่า ยิ่งกว่านั้นเป็นการฝึกทักษะการพูด และเปิดโอกาสให้เขาได้กล้าแสดงความคิดความอ่านออกมา ศิลปะการพูดจาและการเรียนรู้ที่จะผลัดกันฟัง ผลัดกันพูดเป็นทักษะทางสังคมที่สำคัญในการเข้าสังคม, ไปโรงเรียน, หรือแต่อยู่รวมกันที่บ้าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน


  • ป้อนคำถามให้กับลูกโดยเฉพาะเจาะจงถึงเรื่องราวต่างๆ ของเขา จะดีกว่าตั้งคำถามประเภททั่วไป เช่นควรถามว่า "การแข่งบอลที่โรงเรียนวันนี้ทีมไหนชนะ ลูกลงแข่งด้วยหรือเปล่าจ๊ะ" ดีกว่าถามว่า "วันนี้ไปโรงเรียนเป็นยังไงบ้าง?"


  • เพลงประกอบที่ดีที่สุดของการสนทนาระหว่างทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันก็คือ ..เสียงหัวเราะ


  • การนั่งทานข้าวพร้อมหน้ากันในหมู่สมาชิกในครอบครัว ไม่จำเป็นต้องเป็นมื้อค่ำเสมอไป อาจจะเป็นมื้อเช้า ของวันธรรมดาหรือมื้อเช้าวันเสาร์อาทิตย์ หรือแม้แต่มื้อเที่ยงของวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพูดจาสนทนากันต่างหาก ที่มีความหมายต่อครอบครัวและเป็นวัตถุประสงค์หลักในการทานข้าวพร้อมกัน


  • ลองเปลี่ยนสถานที่ทานข้าวพร้อมกันดูบ้างก็ได้ อาจจะเป็นกางโต๊ะที่สนามหญ้าหน้าบ้าน, หรือทานข้าวมื้อเย็นที่ระเบียงนอกชาน ก็ไม่เลวทีเดียว


  • ปิดทีวีและวิทยุชั่วคราว และถ้าไม่มีเรื่องด่วนที่รอคอยระหว่างนั้น ก็ลองดึงสายโทรศัพท์ออกก็ได้ หรือเปิดเครื่องตอบรับโทรศัพท์แทนชั่วครู่ เพื่อป้องกันการรบกวนช่วงเวลาพิเศษของคนในครอบครัว


  • การจัดให้มีการทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน อาจมีข้อติดขัดบางประการ และยังไม่ค่อยสะดวกนักสำหรับครอบครัวที่ไม่เคยชินและไม่เคยจัดมาก่อน แต่หากลองปฏิบัติดูก็ไม่เสียหลายนะคะ บางทีความรื่นรมย์ มีบรรยากาศที่ดีในครอบครัวและการพูดคุยถ้อยทีถ้อยอาศัยกันในหมู่สมาชิกของบ้าน อาจทำให้ทุกคนอยากร่วมทานข้าวพร้อมกัน และพยายามที่จะจัดเวลาให้ลงตัวเพื่อจะได้อยู่บ้านทานข้าวด้วยกันก็ได้ ไม่ลองก็ไม่รู้...ค่ะ




    visit our sponsor
    visit our sponsor


    Home | ข่าวสุขภาพ | การตั้งครรภ์-การคลอด | การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ | ทารกแรกเกิด - ๑ ขวบ
    เด็กวัย ๑-๕ ขวบ | Working Mom | การเงินในครอบครัว | สาระน่ารู้ภายในบ้าน | Dad's Corner


    maeaom@hotmail.com
    Thaiparents.com 2000
    All rights reserved