 
|
 |
แขกรับเชิญ: คุณศศิพิณ
อายุ: สามสิบต้นๆ
สามี: ทำงานประจำ
สวัสดีค่ะ อาทิตย์นี้มาพบกับคุณแม่ศศิพิณกันนะคะ
ตอนนี้ทำงานประจำหรือเป็นแม่บ้านเฉยๆ คะ
ทำงานประจำค่ะ
ทำงานด้านไหนเอ่ย
ทำงานด้านวิศวกรโทรคมนาคมค่ะ ปัจจุบัน เป็น Engineering Manager ค่ะ
ชีวิตประจำวันเป็นอย่างไรบ้าง...คะ
ตื่น 6.30 น. ทานข้าวเช้า เล่นกับลูก 8.00 น ไปทำงาน กลับบ้านอีกที เกือบ 3 ทุ่มค่ะ เล่นกับลูกนิดหน่อย สี่ทุ่มครึ่งเอาลูกเข้านอน จากนั้นก็ออกมานั่งอ่านหนังสือเล่น นอนประมาณเที่ยงคืน ตีสองตื่นมาให้นมมื้อดึก ตีห้าตื่นมาให้นมอีกครั้ง (แต่มีคุณแม่หลายท่านแนะนำให้เปลี่ยนจากนมเป็นน้ำ เพราะลูกชาย 1 ขวบ 3 เดือนแล้วไม่ควรกินนมมื้อดึกแล้ว) คุณแม่อ้อม มีข้อแนะนำไหมคะ
เอ...ทำงานประจำอย่างนี้แล้วใครดูแลลูกให้ล่ะคะ
วันธรรมดามีแม่บ้านค่ะ ดูแลเด็กให้เรา ดูแลบ้าน ทำกับข้าวด้วย ไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติค่ะ เพราะสมัยก่อนเค้าอยู่กับแม่เรา ตอนนี้อยู่กับเรา อยู่มา 27 ปีแล้วค่ะ (มีคนอิจฉามากเลยเรื่องคนเลี้ยงเด็กแบบนี้) ส่วนวันหยุดดูแลลูกเองค่ะ และทุกครั้งที่แม่บ้านกลับมาตอนวันอาทิตย์เย็นๆ ก็จะบ่นว่าลูกอยู่กับเราแล้วผอมไป ทุกทีเลย
ลูกอายุเท่าไหร่คะ กะว่าในครอบครัวจะมีลูกซักกี่คนคะ
มีลูกชายคนเดียว ชื่อ ณัฐภัทร ตอนนี้ 1 ขวบ กับอีกเกือบ 3 เดือนค่ะ เกิด วันที่ 28 กุมภาพันธ์ อยากจะมีลูกชายอีกคน แต่รอลูกคนแรก เข้าโรงเรียนอนุบาลก่อน
ใช้เวลาว่างทำอะไรบ้าง... นอกจากเลี้ยงลูกแล้วเนี่ย
ส่วนใหญ่ก็อ่านหนังสือค่ะ ดูทีวีบ้าง
ในช่วงเช้าก่อนไปทำงาน เตรียมตัวอย่างไรคะ
วันธรรมดาไม่ต้องเตรียมค่ะ แม่บ้านจัดการ แต่วันหยุดต้องตื่นมาคั้นน้ำผลไม้ให้ลูก(และสามีด้วย) เตรียมอาหารเช้าให้ลูกด้วย
มีแนวทางในการเลี้ยงลูกอย่างไรบ้าง และสามีเห็นด้วยไหมคะ
เชื่อว่าเด็กที่ได้เล่นกลางแจ้งบ่อยๆ (ไม่ใช่กลางแดดนะคะ) จะแข็งแรงค่ะ อาจจะผอมไปนิด มอมแมมไปหน่อย คิดว่าสุขภาพดีกว่าเปิดแอร์ให้เด็กและนั่งดูทีวีทั้งวัน ส่วนสามีคงเห็นด้วยมั้งค่ะเพราะไม่เห็นพูดอะไร
แล้วคุณแม่ใช้เวลาว่างกับครอบครัวยังไงคะ
ส่วนใหญ่จะออกไปเที่ยวนะคะ ไปสวนรถไฟ ไปวังตะไคร้ ไปบางแสน
ช่วงไหนที่ให้เวลากับลูกคะ และทำกิจกรรมอะไรกับเค้าคะ
ให้เวลากับลูกทุกช่วงค่ะถ้าไม่ได้ไปทำงาน หลักๆ ก็เช้าวันเสาร์ พอลูกอิ่ม ก็พาลูกไปขี่จักรยาน (ไม่ได้ออกไปไหนนะคะ พอดีบ้านอยู่ในซอย ไม่ค่อยมีรถ ก็เลยขี่จักยาน ไปๆมาๆ ถือซะว่าแม่ออกกำลังกายและลูกก็ดูนั่นดูนี่ ดูหมาดูแมว) พอเหนื่อยก็เอาลูกขึ้นมาอาบน้า พอลูกตื่นนอน ก็ไปว่ายน้าในสระใกล้ๆ บ้าน เล่นสัก ประมาณ 40 นาที พอกลับถึงบ้านอีกที ทีนี้ก็แล้วแต่ลูกค่ะ ส่วนใหญ่ก็เล่นของเล่นกับเค้า ดูทีวี เปิดสมุดภาพ เล่นตัวต่อ
ถ้าเป็นวันอาทิตย์ ว่ายน้ำเสร็จ พอตอนเย็นก็จะไปสวนรถไฟ เดินเล่นป้อนข้าวลูก ถ้าสามีว่างถึงจะได้ไปเที่ยวต่างจังหวัด
มีโอกาสไปเที่ยวนอกบ้านกับสามีสองต่อสองไหมคะ
โชคดีหน่อยค่ะที่ทำงานของสองคนใกล้ๆกัน นานๆที จะหลบลูกไปกินข้าวเย็นกันสองคน แต่ไม่ค่อยบ่อยนะคะคิดถึงลูก
พอใจกับชีวิตครอบครัวที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้มากน้อยแค่ไหนคะ และมีส่วนใดบ้างที่อยากเพิ่มมากขึ้น หรือลดลง
พอใจค่ะ ไม่อยากเพิ่มหรือลดแล้ว
เล่าให้ฟังถึงช่วงตั้งครรภ์ลูกคนนี้หน่อยได้มั้ยคะ
ตอนตั้งครรภ์ จมูกโตมากเลยค่ะ หน้าตาก็หน้าเกลียดมาก ดูดำ และก็โทรมมาก ที่คอมีรอยดำๆ เหมือนไม่ได้อาบน้ำมาซักปี สมัยก่อนก็ไม่สวยนะคะ แต่ไม่น่าเกลียด (ช่วงตั้งครรภ์ไม่มีรูปถ่ายเลยค่ะ รับตัวเองไม่ไหว) ทุกคนที่เจอก็ทายว่าเป็นลูกชายแน่นอน 101% แต่สงสัยจังพอคลอดลูกปุ๊บ จมูกยุบปั๊ปเลย แปลกใจจัง
เล่าเหตุการณ์ในวันคลอดให้ฟังด้วยได้มั้ยคะ เผื่อคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์จะอยากทราบบ้าง
ดิฉันคลอดก่อนกำหนดประมาณ 2 สัปดาห์ ตอนนั้นเสียใจมาก เพราะตั้งใจจะคลอดเอง และหมอก็บอกว่าแข็งแรง คลอดได้สบายมาก แต่ถุงน้ำคร่ำแตกก่อน เข้าโรงพยาบาล 8.30 น 11.10น ผ่าเสร็จแล้ว ต้องผ่าออกแบบฉุกเฉินค่ะ รู้ตัวตลอดแต่ไม่เจ็บ (บล็อกหลัง) หลังจากผ่าแล้วต้องนอนอยู่กับที่ 1 วันเต็ม จากนั้นก็ลุกเดินไปอยู่กับลูกในห้องเด็ก เพราะโรงพยาบาลจะไม่อนุญาติให้เอาเด็กออกจากห้องเลยคุณแม่ต้องเดินไปหา อยากจะแนะนำว่า ใครผ่าตัดต้องลุกขึ้นมาเดินเร็วๆนะคะ เจ็บแผลตอนแรกๆ แต่หายเร็วกว่า ถ้านอนเจ็บอยู่บนเตียงแผลจะยิ่งหายช้า
มีเคล็ดลับในการเลี้ยงลูกอย่างไรบ้างคะ
ทำเป็นไม่สนใจเวลาเค้าร้องไห้เอาแต่ใจ (ทำยากค่ะ) แต่ถ้าเราไม่สนใจหรือเดินหนี เค้าจะเดินตามเองค่ะ มีครั้งหนึ่ง เค้าเดินแล้วสะดุดหกล้ม ร้องไห้ ดิฉันไม่เข้าไปโอ๋ ลูกณัฐมองหน้าแม่ แล้วก็หยุดร้อง จากนั้นลุกเดินมานั่งตรงเท้าดิฉันแล้วร้องไห้ใหม่ ดูสิคะ กวนหรือเปล่า
นอกจากนั้นก็ให้เค้าช่วยงานเล็กๆน้อยๆ แล้วชม เด็กจะดีใจค่ะ เช่น เอานี่ไปทิ้งขยะ แล้วก็จูงมือเค้าไปชี้ถังขยะให้ดู พอถอดเสื้อผ้า ให้เอาไปไว้ในตะกร้าใส่ผ้า พอเค้าทำได้ก็ปรบมือให้ แล้วก็ให้เค้าปรบมือให้ตัวเอง (ผลลัพธ์ คือ พอถอดกางเกง ก็เอากางเกงไปทิ้งขยะ และปรบมือให้ตัวเอง หรือบางทีก็หยิบผ้าจากตะกร้า ไปใส่ขยะ แต่ไม่ซีเรียสนะคะ ต้องค่อยๆสอนไป
ก่อนจากกัน มีอะไรอยากจะฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆ บ้างมั้ยคะ
อยากให้คุณพ่อคุณแม่ท่านอื่น สนใจเรื่องการเล่นกลางแจ้ง เช่น สวนสาธารณะหรือสนามเด็กเล่น เล็กๆข้างๆ บ้าน (ไม่ได้หมายถึงให้เล่นกลางแดดร้อนๆ และ ไม่จำเป็นต้องนั่งเครื่องบินไปเชียงใหม่นะคะ) ดิฉันคิดว่าจะทำให้เด็กแข็งแรง และได้อากาศบริสุทธิ์ กว่าการเปิดแอร์ให้ลูกอยู่ในห้องทั้งวัน เพราะกลัวลูกร้อน บางทีก็กลัวลูกหกล้มแล้วจะเจ็บ หรือพาลูกไปเดินเล่น, เล่นของเล่น ในห้างสรรพสินค้า
ดิฉันคิดเอาเองค่ะว่าในห้างฯ อากาศจะไม่ค่อยสะอาด เด็กที่เดินห้างฯบ่อยๆ จะเป็นหวัดไม่ค่อยหายโดยเฉพาะเด็กเล็ก และข้อสำคัญเปลืองสตางค์ค่ะ สู้ไปสวนสาธารณะไม่ได้ เตรียมของว่างพวกแซนด์วิชไป เอาน้ำ เอาเสื่อไปปูนั่ง ประหยัดคะ ครอบครัวอบอุ่น ไม่เปลืองสตางค์ แล้วก็ปล่อยลูกเดินเล่น ถ้าผู้ใหญ่ดูแล เด็กหกล้มบ้างแต่ไม่เจ็บมากหรอกค่ะ แล้วเค้าจะเรียนรู้เองเลยว่าล้มยังไงให้เจ็บน้อยๆ (เช่นถ้าล้มข้างหน้าให้เอามือยันไว้)
ที่เล่ามาทั้งหมดนี่ไม่ใช่ ลูกไม่เคยงอแงหรือร้องไห้ไม่เป็นนะคะ เพียงแต่ถ้าผู้ใหญ่ไม่เอามาเป็นอารมณ์ ปัญหาทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง มีเหมือนกันที่ลูกร้องไห้บ่อยๆ ดิฉันจะเครียด ดิฉันก็จะให้สามีดู ส่วนตัวเองก็จะหนีลูกมาอาบน้ำ ใจจะได้เย็นลง แล้วก็ออกมาเจอกับลูกใหม่
ขอบคุณมากค่ะที่มาเป็นแขกรับเชิญ และพูดคุยกันในวันนี้ หวังว่าโอกาสหน้าคงจะได้มาคุยกันอีกนะคะ
แม่อ้อม
สำหรับแขกรับเชิญทานต่อไป จะเป็นใคร คอยติดตามนะคะ
ส่วนท่านใดยินดีที่จะมาเป็นแขกรับเชิญ พูดคุยกัน สบายๆ แบบนี้บ้าง ขอเชิญ email
มาบอกกันได้นะคะ ที่ maeaom@hotmail.com or maeaom@thaiparents.com ค่ะ
แล้วพบกันใหม่ค่ะ
แม่อ้อม
|
|
|
